เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ สน.มีนบุรี พ.ต.อ.อิสระ ณ พัทลุง รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี พร้อมด้วย นายปวินท์ หน่อแก้ว เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม แถลงถึงความคืบหน้ากรณีคลัสเตอร์ยาดองมรณะ ในพื้นที่ บก.น.3 พ.ต.อ.อิสระ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่านายสุรศักดิ์ หรือ เอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย หรือ อาร์ท อายุ 44 ปี 2 พี่น้องเจ้าของโรงงานผลิตสุราขาวที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ มีการสั่งซื้อผ่าน น.ส.นฤวร และนายกรกฏ สามีภรรยา ที่เป็นผู้ค้าคนกลางที่ไปซื้อเอทานอลที่ร้านเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ มานานกว่า 1 ปี โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ทำธุรกิจด้วยกันมา นายเอสและนายอาร์ทมีการติดเงินอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา สามีภรรยาจึงไม่ส่งสินค้าให้นายเอส และนายอาร์ท ทำให้ทั้งคู่ไม่ทราบว่าพี่น้อง 2 คนนี้ไปหาซื้อสารเมทานอลที่ใด ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาแหล่งที่มาอยู่

พ.ต.อ.อิสระ กล่าวต่อว่า ผลการตรวจวัดหาสารเมทานอลภายในโรงงานผลิตสุราขาวของสองพี่น้อง ที่กรมสรรพสามิตรายงานมา พบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน เช่นเดียวกันกับบ้านของ น.ส.ภัสส์รศา อายุ 49 ปี หรือ”เจ๊ปู” มือผสมยาดอง ส่วนจุดคลัสเตอร์ 18 จุดที่เป็นเครือข่ายของเจ๊ปูนั้น พบว่าสารเมทานอลมีความแตกต่างกันในแต่ละจุด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ค้ารายย่อยมีการไปผสมเพิ่มเติม หรือสารเมทานอลมีความเจือจาง เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยแต่ละคนรับยาดองกันมาต่างวันกัน ส่วนเรื่องคลัสเตอร์ใหม่ 5 จุด ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก อยู่ระหว่างการทยอยสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อพิสูจน์ว่าทั้ง 5 จุดนี้รับยาดองมาจากผู้ใด

พ.ต.อ.อิสระ กล่าวอีกว่า ขณะที่ผลการตรวจค้นโรงงานผลิตสุราขาวของสองพี่น้องที่อยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ายังมีแกลลอนที่บรรจุเมทานอลจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอุปกรณ์ในการใช้ผลิตสุราขาว และยังมีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นโลหะบางอย่าง ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจจะเคยใช้ในการบรรจุเมทานอล โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ต่อไป

ด้านนายปวินท์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะให้การเยียวยาในส่วนของความเสียหายจากคดีอาญา โดยคดีนี้มีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตและได้มีญาติผู้ตายพร้อมด้วยผู้บาดเจ็บในบางรายเข้ามาแจ้งความที่ สน.มีนบุรี ทางเราก็ได้รับเรื่องจาก สน.มีนบุรี และก็จะทยอยรับเรื่องต่อไป โดยในส่วนนี้จะมีค่าเยียวยาในกรณีที่เสียชีวิตมีค่าตอบแทนคนตายให้ 30,000 ถึง 100,000 บาท ค่าจัดงานศพ 20,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท และความเสียหายอื่นๆ อีก 40,000 บาท ส่วนกรณีที่มีผู้บาดเจ็บจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของอาการ ซึ่งจะให้ค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทางรายได้ตามค่าแรงขั้นต่ำไม่เกิน 14,000 บาท หลังจากที่มีการรับเรื่องร้องเรียนจากทางญาติก็จะดำเนินการทำหนังสือและยื่นถึงคณะอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในความคืบหน้าของคดีนี้ สืบทราบว่ามีขบวนการแอบอ้างนำสารเมทานอลมาผสมกับน้ำเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นสุราขาว และขายตามสถานบันเทิงหรือร้านค้าต่างๆ จึงอยากจะขอเตือนผู้ที่กระทำการดังกล่าวให้นึกถึงผู้บริโภคด้วย ส่วนผู้ที่ผลิตยาดองแล้วจะนำสุราขาวมาผสมไว้จำหน่ายนั้น ควรจะนำสุราขาวที่ได้รับรองจากกรมสรรพสามิตมาผสมเป็นยาดองเท่านั้น ส่วนผู้บริโภคที่รู้อยู่แล้วว่ายาดองหรือสุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพก็อยากให้พิจารณาในการบริโภคด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจสารเมทานอลในศพทั้ง 7 ราย ได้ทยอยส่งให้กับมือพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่าทุกศพมีสารเมทานอลไม่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณการดื่มของแต่ละรายไม่เท่ากัน ทั้งนี้สารดังกล่าวเป็นสารที่ไม่ควรอยู่ในร่างกายมนุษย์และออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้ถึงแก่ความตาย

ในขณะเดียวกันญาติของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตกรณีดังกล่าวเริ่มทยอยมาให้ปากคำที่ สน.มีนบุรี เพื่อประกอบสำนวนคดีและเพื่อรับเงินเยียวยา