สอดคล้องกับการที่ ‘บางกอกเคเบิ้ล’ แสดงวิสัยทัศน์ครบรอบ 60 ปี ประกาศสนับสนุนความต้องการสายไฟทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด ‘3 เซฟ’ 1. เซฟคน ยกระดับความปลอดภัย ปกป้องบ้านจากอันตรายที่มองไม่เห็น มอบความปลอดภัยให้ทุกคนในครอบครัว ด้วยสายไฟและสายเคเบิลที่ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม มีคุณภาพสูงสุด อาทิ สายไฟฟ้าจากทองแดงบริสุทธิ์ 99.99% อะลูมิเนียมบริสุทธิ์ 99.7% ที่นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อการกัดกร่อน ปลอดภัยต่อการใช้งาน สายทนไฟที่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี

2. เซฟเมือง ร่วมพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศ รองรับการขยายตัวของเมืองและกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยสายไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพชั้นนำระดับนานาชาติ ที่ผ่านการทดสอบคุณภาพสายไฟในห้องปฏิบัติการทดสอบทางไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงบริการรถทดสอบสายไฟฟ้าแรงดันสูงเคลื่อนที่บริเวณหน้างานของลูกค้า ตลอดจนการพัฒนาโปรดักท์
ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และ 3. เซฟสิ่งแวดล้อม ด้วยการอำนวยความสะดวกสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับสายไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงประเทศไทยสู่เส้นทางอนาคตในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดย บางกอกเคเบิ้ล ได้เป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและเคเบิลรายเดียวในประเทศไทยที่เข้าร่วมในสมาคมเครือข่ายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ

นอกจากนี้ ในระยะกลาง 3 ปี (ปี 67-69) บางกอกเคเบิ้ลยังได้เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการไฟฟ้าของทั้งไทยและโลก ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.การขยายสู่ตลาดภูมิภาค นำงานวิจัยและพัฒนา ที่ลํ้าสมัยของบริษัท นำเสนอเป็นสินค้าที่โดดเด่นสู่เวทีโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน สร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายและซัพพลายเชนของบริษัท 2.การพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ บูรณาการเทคโนโลยีใหม่ ๆ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสายไฟ มุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ 3.การเติบโตอย่างยั่งยืน ยึดมั่นบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตสายเคเบิลที่จำเป็นในการรองรับความต้องการด้านไฟฟ้าของโลกยุค Net-Zero

“เราเห็นความต้องการสายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากหลากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จากทั่วประเทศ การเดินหน้าแผนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย การขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามหาศาล เช่น การดึงพลังงานมาใช้ในระบบดาต้า เซ็นเตอร์ ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับทิศทาง Net Zero ซึ่งสายไฟฟ้าจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน และขับเคลื่อนอนาคตของเมืองต่อไปได้”.