เมื่อเวลา 15.26 น. วันที่ 27 ส.ค. น.ส.อิ๋ว (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี พาลูกสาว ด.ญ.แอ๋ว (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ หลังลูกสาวถูกชาวต่างประเทศ ข่มขืนกระทำชำเรา จนตั้งท้องแล้วบังคับให้ไปทำแท้ง หวังให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย

โดย ด.ญ.แอ๋ว เล่าว่า เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดน้าสาว ได้ขอไปร่วมงานฉลองวันเกิดที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่งในพื้นที่หนองปรือ ซึ่งชายชาวอินเดียทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รู้จักกับน้าสาว ได้เปิดห้องจัดเลี้ยงให้ เนื่องจากเคยว่าจ้างน้าสาวไปทำความสะอาดบ่อยครั้ง โดยช่วงเกิดเหตุตนรู้สึกปวดปัสสาวะ จึงเดินไปเข้าห้องน้ำชั้นบนห้อง แต่ไม่คาดคิดว่า เมื่อออกจากห้องน้ำมาเจอกับชายชาวอินเดีย เดินปรี่เข้ามาโอบกอดเอว แล้วกระชากลงไปนอนบนเตียง จับตนถอดเสื้อผ้า แม้จะพยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหว จึงถูกล่วงละเมิด ภายหลังรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงได้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ปรากฏว่าตั้งท้อง เมื่อชาวอินเดียทราบเรื่องก็บังคับให้ไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ

น.ส.อิ๋ว มารดา เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจ ที่ในวันแรกที่ลูกสาวนำเรื่องมาเล่าให้ฟังกลับไม่เชื่อลูก เพราะคิดว่าชาวอินเดียอายุมากแล้ว ไม่คิดว่าจะก่อเหตุเช่นนี้ จนลูกสาวมีอาการผิดสังเกต เมื่อตรวจก็ทราบว่าลูกสาวตั้งครรภ์ จึงถามเค้นลูกสาวอีกครั้งว่าตั้งครรภ์กับใคร ลูกสาวตอบว่า เคยบอกไปแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อ ต่อมาได้ให้น้องสาว ซึ่งเป็นน้าของ ด.ญ.แอ๋ว ที่พาไปร่วมงานวันเกิด ติดต่อไปหาชาวอินเดียที่ก่อเหตุ ชาวอินเดียคนดังกล่าว ตอบมาราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กว่า ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้ เดียวพาไปทำแท้งที่กรุงเทพฯ

น.ส.อิ๋ว เผยต่อว่า หลังได้ยินคำตอบ ตนก็ได้ตอบกลับไปว่าไม่ทำ เดียวจะเลี้ยงเองก็ได้ แต่อย่างน้อยให้ช่วยค่าเลี้ยงดูบ้าง ก่อนจะถูกออกอุบายลวงไปทำแท้ง ที่คลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อไปถึงชาวอินเดียได้ไปกดเงินมา 8,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการทำแท้ง หลังจากตนจ่ายเงินไปแล้วนั้น ได้แจ้งกับหมอว่า ให้รับเงินไปเลย ตนไม่ให้ลูกทำแท้งแล้ว แต่กลับถูกทีมหมอตวาด ไม่ได้ ยังไงมาแล้วต้องทำ และขณะที่ได้กำชับลูกสาวให้แจ้งกับหมอว่าไม่ทำแล้ว ลูกสาวกลับถูกต่อว่าจากหมอด้วยถ้อยคำที่สุดช้ำใจว่า จะเก็บไว้ทำไม เก็บไว้ก็เป็นขยะสังคม จนยอมทำไป หลังทำเสร็จ ยังพูดซ้ำเติมอีกว่าหลังจากนี้ ก็อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะได้ไม่ต้องเกิดมารกโลก

“ที่ไม่ได้พาลูกเข้าแจ้งความนั้น เพราะกลัวว่าลูกจะเสียหาย และครอบครัวตนเองเป็นคนจน กลัวอำนาจเงินของชาวอินเดีย ประกอบกับได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้าง ว่าจะเอาอะไรไปสู้กับเขา จึงไม่กล้าที่จะแจ้งความร้องทุกข์ จนกระทั่งมีคนสนิททราบเรื่อง จึงแนะนำว่าให้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ” น.ส.อิ๋ว กล่าว

ด้าน น.ส.แอ๊ด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี น้าสาว กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่รู้จักกับผู้ก่อเหตุนั้น เพราะเคยรับว่าจ้างไปทำความสะอาด เนื่องจากชาวอินเดียทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จนเมื่อถึงวันเกิดตน ชาวอินเดียจึงเอ่ยปากชวนว่าให้มาจัดที่พูลวิลล่าของเขา ซึ่งในวันที่เกิดเหตุหลานสาว มาเล่าให้ฟังแล้ว แต่ตนกลับไม่เชื่อ เพราะคิดว่าชาวอินเดียไม่น่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งยังตำหนิหลานสาวไป แต่มาเกิดความสงสัย เพราะว่าชาวอินเดียเคยพูดจากลามกใส่ แต่ก็สายไปเสียแล้ว จึงได้ปรึกษากันเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว.