เมื่อวันที่ 26 ส.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าวการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว.” โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วม ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว. ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวง อว. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. ขึ้นมา ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ห้อง 7B ชั้น 7 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. เป็นวอร์รูมในการวางแผน ประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ และสั่งการไปยังหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งของที่จำเป็นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการรองรับเหตุ แก้ไขปัญหา บรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด โดยเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พร้อมมอบหมายให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการประจำจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือประชาชน เป็นที่พักพิงชั่วคราว และเป็นศูนย์กระจายสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงเป็นหน่วยประสานงานในพื้นที่ ได้แก่ จ.เชียงราย โดย มรภ.เชียงราย จ.แพร่ โดย ม.แม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โดย มทร.ล้านนา น่าน จ.พะเยา โดย ม.พะเยา จ.สุโขทัย โดย มรภ.พิบูลสงคราม โทร จ.ระนอง โดย วิทยาลัยชุมชนระนอง จ.ภูเก็ต โดย มรภ.ภูเก็ต จ.ยะลา โดย มรภ.ยะลา จ.นครศรีธรรมราช โดย ม.วลัยลักษณ์ และ จ.สงขลา โดย ม.สงขลานครินทร์
รมว.อว. กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวง อว. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รองรับสถานการณ์ใน 3 ระยะ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คือ 1. “การเฝ้าระวังน้ำท่วม” กระทรวง อว. มีระบบการติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน และวางแผนอพยพได้อย่างทันท่วงที จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศน้ำ หรือ สสน. ที่เป็นหน่วยรวบรวม เชื่อมโยง บูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำและภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อน้ำ 435 รายการ และมีรถโมบายเคลื่อนที่เพื่อติดตามสถานกาณ์น้ำในพื้นที่ โดยศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. จะนำเสนอข้อมูลใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย ข้อมูลติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำปัจจุบันแบบเรียลไทม์เช่น เส้นทางพายุ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตกในพื้นที่ เป็นต้น ข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์น้ำ แบบจำลองชี้เป้าพื้นที่เสี่ยง ข้อมูลจากเทคโนโลยีสำรวจสำหรับวิเคราะห์ เพื่อวางแผน ตัดสินใจแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ระบบเว็บไซด์และโมบายแอปพลิเคชันสำหรับติดตามสถานการณ์น้ำ เช่น เว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ เป็นข้อมูลภาพรวมประเทศ เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลน้ำจังหวัด เป็นข้อมูลแยกรายจังหวัด และแอปพลิเคชัน ThaiWater สำหรับประชาชนทั่วไป ใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า จะสนับสนุนข้อมูลมายังศูนย์ปฏิบัติฯ แห่งนี้ใน 2 ชุดข้อมูลที่สำคัญ ประกอบด้วย การติดตามสถานการณ์ด้วยดาวเทียม พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นประจำทุกวัน สถานการณ์ความเสี่ยงน้ำท่วม จากสถิติพื้นที่น้ำท่วมย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีการแจ้งผ่านเพจของกระทรวง อว. ทุกวัน ในเวลา 13.00 น.
น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า 2. “การให้ความช่วยเหลือระหว่างเกิดภัยน้ำท่วม” ซึ่งนอกจากจะเปิดพื้นที่ของมหาวิทยาลัยให้เป็นศูนย์บรรเทาและพักพิงให้ผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังระดมกองทัพโดรนกว่า 30 ลำ ทั้งในส่วนของกระทรวง อว. และเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค มาปฏิบัติภารกิจในการสำรวจและลำเลียงสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก นอกจากนี้ ยังมีเรือไวไฟ (WiFi) ที่จะเข้าไปให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ รวมถึงยังมีบ้านสำเร็จรูป ที่นอนยางพารา เครื่องกรองน้ำไส้กรองนาโนแบบเคลื่อนที่ และถุงยังชีพที่มีอาหารนวัตกรรมพร้อมทานโดยไม่ต้องอุ่น ยาและของใช้ที่จำเป็นไปมอบให้ผู้ประสบภัยอีกด้วย ซึ่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หน่วยงานในพื้นที่หรือภาคประชาชนสามารถประสานขอมายังศูนย์ปฏิบัติการทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ได้ และในวันนี้จะมีการจัดส่งโดรนขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการขนส่งของไปยังพื้นที่จังหวัดสุโขทัยจำนวน 3 ลำ และ 3. “ฟื้นฟูหลังน้ำลด” กระทรวง อว. จะจัดตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ซ่อมและบริการเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือเกษตร ขณะที่ ยังนำนักศึกษาจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชน เช่น การให้บริการซ่อมแซมบ้านเรือน พาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การเกษตร หลังสถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวง อว. ลงไปรักษา บำบัด ฟื้นฟู ทั้งร่างกายและจิตใจ
น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังมีแพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูล ทั้งการแจ้งเหตุสถานการณ์ในพื้นที่ การขอความช่วยเหลือและการรับบริจาค พร้อมจะดูแลนักศึกษาและบุคลากรของกระทรวง อว. ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนและจะได้ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ต่อไป ที่สำคัญ ตนได้สั่งการให้ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ลงพื้นที่ในพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ไปทำงานกับ อว.ส่วนหน้า จ.สุโขทัย ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่กำลังจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในลำดับต่อไป
“ดิฉันในฐานะ รมว.อว. และบุคลากรของ อว. มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ ขอยืนยันว่าการช่วยเหลือ จะไปถึงมือประชาชนอย่างแน่นอน โดยการระดมทั้งกำลังคน เทคโนโลยีพร้อมใช้ เพื่อส่งให้ถึงมือประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ เพราะกระทรวง อว. รับรู้ถึงทุกข์สุขของประชาชน เป็น “อว.เพื่อประชาชน“ และนี่คือศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่จะกระจายความช่วยเหลือไปถึงประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด“ น.ส.ศุภมาส กล่าว