เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ (นักวิชาการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ) โพสต์เฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางระบายน้ำจากภาคเหนือ ลงสู่ลุ่มแม่น้ำภาคกลาง โดยผ่านเขื่อนสำคัญ 4 แห่ง ย้ำรายชื่อจังหวัดภาคกลางเสี่ยงน้ำท่วม
โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้อความว่า มวลน้ำจากภาคเหนือกำลังจะลงมาที่ภาคกลาง โดยเส้นทางของน้ำจากภาคเหนือลงสู่ภาคกลาง มีดังนี้
1.ในภาคเหนือมีเขื่อนที่สำคัญอยู่ 4 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล จ.ตากกั้นแม่น้ำปิง เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์กั้นแม่น้ำน่าน และเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปางกั้นแม่น้ำวัง ส่วนแม่น้ำยมไม่มีเขื่อนกั้นหากฝนตกมากน้ำจะท่วมจังหวัดพะเยา แพร่ สุโขทัย และพิษณุโลกเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังมีเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก กั้นแม่น้ำแควน้อย ทั้งหมดจะไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ ต.ชุมแสง อ.ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
2. แม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลผ่านจังหวัดอุทัยธานี โดยมีแม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วไหลผ่านจังหวัดชัยนาท ที่นี่จะมีเขื่อนเจ้าพระยากั้นกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอสรรพยาจะมีประตูระบายน้ำปิดเปิดตามที่กำหนด
3. แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านไปยังจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา ที่นี่จะมีแม่น้ำป่าสักที่ระบายน้ำออกมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จังหวัดลพบุรี ระบายมายังจังหวัดอยุธยาผ่านเขื่อนพระราม 6 และมารวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าวัดพนัญเชิง แล้วไหลไปสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพ และออกสู่อ่าวไทย ที่ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ
4. ฝนตกในภาคเหนือในปริมาณมาก น้ำจะไหลบ่ามาสู่ภาคกลาง หากสถานีวัดน้ำ C.13 จังหวัดชัยนาทปล่อยน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาถึง 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที และสถานีวัดน้ำ C.29A ที่หน้าศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ตรวจวัดปริมาณน้ำได้เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเกิน 1.0 เมตร จากปกติทำให้น้ำล้นตลิ่ง ประกอบกับฝนตกหนักจะมีโอกาสที่น้ำจะท่วมจังหวัดนนทบุรี กรุงเทพฝั่งตะวันออกและสมุทรปราการได้มากขึ้น
5. ร่องมรสุมและพายุที่พัดเข้ามากขึ้นและแรงขึ้น + ปรากฏการณ์ลานีญากำลังแรง + น้ำเหนือไหลหลาก + น้ำทะเลหนุน จะทำให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้น น้ำท่วมจะภาคกลางถึงกรุงเทพฯหรือไม่ ต้องจับตาดูช่วงกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมนี้ ทั้งหมดมาจากโลกที่ร้อนขึ้นทุกปีอีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : Sonthi Kotchawat และภาพจากวิชาการธรณีไทย