สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติยูเครน ซึ่งตรงกับวันที่ 24 ส.ค. ของทุกปี มีเนื้อหาตอนหนึ่งเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ที่ทหารยูเครนยกทัพข้ามพรมแดนเมื่อต้นเดือนนี้ ว่า “หนึ่งในเป้าหมาย” คือการแสดงให้รัสเซียเห็นว่า “สิ่งใดสำคัญกว่า” สำหรับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน “ระหว่างการยึดครองดินแดนของยูเครน หรือการปกป้องชาวรัสเซีย”


ขณะเดียวกัน เซเลนสกีเรียกปูตินว่า “คนป่วยจากจัตุรัสแดงซึ่งข่มขู่ทุกคนด้วยปุ่มสีแดง” สื่อถึงการเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์
อีกด้านหนึ่ง ผู้นำรัสเซียพบหารือกับทหารระดับสูง รวมถึงพล.อ.วาเลอรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในภูมิภาคเคิร์สก์ และการใช้มาตรการเพื่อทำลายล้างศัตรูที่รุกรานข้ามพรมแดน

บรรดาเชลยศึกชาวยูเครนใช้ธงชาติคลุมตัว หลังได้รับการปล่อยตัวจากกองทัพรัสเซีย


นอกจากนี้ รัฐบาลของทั้งสองประเทศยืนยัน การแลกเปลี่ยนนักโทษฝ่ายละ 115 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยยูเครนปล่อยตัวทหารรัสเซียซึ่งมีการควบคุมตัวไว้เป็นเชลย ที่ภูมิภาคเคิร์สก์ ส่วนรัสเซียปล่อยตัวเชลยศึกยูเครน ซึ่งมีทั้งทหาร และเจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดน


ทั้งนี้ รัฐบาลมอสโกและรัฐบาลเคียฟขอบคุณสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ซึ่งทำหน้าที่ผู้ประสานงาน และเป็นคนกลางในการเจรจา
ส่วนทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยไบเดนประกาศความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่รัฐบาลเคียฟอีก 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4,239.63 ล้านบาท )


ความสนับสนุนดังกล่าวครอบคลุม ระบบป้องกันทางอากาศชุดใหม่ เพื่อเสริมการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน อุปกรณ์และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน และระบบต่อต้านอากาศยาน นอกจากนี้ สหรัฐจะเพิ่มความสนับสนุนด้านกระสุนปืนใหญ่ และฐานยิงจรวดเคลื่อนที่


ปัจจุบัน สหรัฐเป็นผู้สนับสนุนทางทหารรายใหญ่ที่สุดของยูเครน โดยมอบความช่วยเหลือไปแล้วเป็นมูลค่ามากกว่า 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.86 ล้านล้านบาท ) นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565.

เครดิตภาพ : AFP