เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 67 พรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค นายยงยุทธ สุวรรณบุตร นายอภิชัย เตชะอุบล นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายสุธรรม จริตงาม นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ น.ส.กาญจนา จังหวะ จำนวน 12 ครบ ถือว่าครบองค์ประชุม
ต่อมาเวลา 13.18 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาลและการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ตามที่ สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควตาของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 ส.ค. 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าว จำนวน 4 ท่าน ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์
“ทั้งนี้ หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าว และจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตาม” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีหากรายชื่อคณะรัฐมนตรี ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่มารยาททางการเมือง ควรจะต้องมีการประสานกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐก่อนว่า เกิดปัญหาในด้านใดกับรายชื่อบุคคลของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำการปรับเปลี่ยนรายชื่อต่อไป.