เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “สืบนครบาล IDMB” โพสต์ข้อความระบุ ว่า “ศาลอาญาพิพากษาลงโทษพนักงานคอลเซ็นเตอร์ กรณีผู้การจ๋อนำ PCT 5 ร่วม บก.สอท.1 ทลายแก๊งคอลประตูดำ ผู้เสียหายสูญเงิน 41 ล้านบาท และอดีตหมอ จ.ชุมพร 101 ล้านบาท จำเลยนายนวกรหรือขุน กับพวก 13 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 20 ปี ศาลเห็นว่าจำเลยถูกหลอกไปทำงานจริง แต่ไม่กระตือรือร้นพยายามหนีออกมา ส่วนบัญชีม้า ผู้จัดหา บช. สั่งจำคุก 9 ปี”

ล่าคอลเซ็นเตอร์แสบ หลอกอดีตผอ.ศูนย์แพทย์สูญเงินกว่า100ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพฤติการณ์ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือน เม.ย.-ต.ค.65 แพทย์หญิงวัยเกษียณ เปิดคลีนิกร่วมกับลูกสาว ใน จ.ชุมพร ตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินไป 100 กว่าล้านบาท เพราะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตีเนียนปลอมเป็น ผกก.โรงพักเมืองเชียงราย และยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้านบาท โดยใช้อุบายอ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง โทรมาแจ้งลูกสาวของแพทย์หญิงว่าเป็นผู้ส่งพัสดุสิ่งของผิดกฎหมายไปยังผู้รับปลายทาง จะต้องถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย และให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านไลน์ที่ใช้ชื่อ สภ.เมืองเชียงราย

ต่อมาเมื่อมีการติดต่อได้ถูกข่มขู่จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากไม่ทำตามจะถูกดำเนินคดี และให้ติดต่อกับ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ผ่านทางไลน์ ซึ่งมีการพูดหว่านล้อม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้เป็นแม่ กระทั่งโอนเงินทั้งหมด 4 บัญชี ไปยังบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีหลายบัญชี ตั้งแต่วันที่ 25-29 ก.ย. 2565 รวมมูลค่า 101,871,381 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคารเกิดความสงสัย จึงติดต่อเข้ามา ทำให้ทราบว่าถูกหลอกลวง นำไปสู่การแจ้งความร้องทุกข์

กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ต.ค.65 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการที่ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจับกุมตัวนายชลวิชา ปานสมุทร หรือเบียร์ บ้านแพ้ว ผู้ปลอมเป็น ผกก.สภ.เมืองเชียงราย หนึ่งในขบวนการสาย 3 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ตึกประตูดำ” ซอยวัดตาด เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลบหนีมาไทยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยร่วมกับตำรวจกัมพูชา เข้าตรวจค้นตึก เมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 และมีการไล่จับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ เรื่อยมา รวมทั้งบัญชีม้า กระทั่งศาลมีคำพิพากษาครั้งนี้