เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่กรมชลประทาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แถลงหลังการประชุมการบริหารจัดการน้ำ (แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ที่กรมชลประทาน ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่โดยสมบูรณ์ ก็มีความเป็นห่วง จึงอยากฝากให้ดูแลประชาชน โดยวันนี้ที่ประชุมทั้งหมดได้มีการทบทวนแผนงานที่ได้กำหนดในช่วงที่ผ่านมา โดยลงลึกไปที่เป้าหมายว่า พื้นที่ไหนมีน้ำท่วมที่ไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุด

นายภูมิธรรม กล่าวว่า แผนเฉพาะหน้าได้มีการให้กระทรวงมหาดไทยตั้งศูนย์แต่ละจังหวัด มอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคนกลางในการประสานหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน พะเยา และสุโขทัย ได้ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ไปดูข้อกฎหมายต่างๆ ตรงไหนที่สามารถประเมินได้ว่าจะเกิดอุทกภัย ให้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อจะได้ใช้อุปกรณ์ในการป้องกันภัย

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ไปดูแลเรื่องของชลประทาน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สิ่งที่สบายใจตอนนี้คือเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำในเขื่อน 60% ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 40% ขณะที่ เชียงราย พะเยา น้ำจะไหลลงแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นน้ำหลาก ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จะคลี่คลายยกเว้นจะมีฝนตกลง

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประสานกับกระทรวงคมนาคม ส่วนใดเป็นน้ำหลากกีดขวางทางน้ำ ให้เจาะถนนเพื่อระบายน้ำ แต่ต้องแจ้งประชาชน แล้วจะประสานกับกระทรวงกลาโหม นำสะพานเบลีย์มาใช้ชั่วคราว ขณะเดียวกันได้มีการตั้งวอร์รูมชั่วคราวที่สุโขทัย เพื่อรวบรวมข้อมูลในการประเมินสถานการณ์น้ำ และนำรถโมบายลงพื้นที่ในจุดที่เป็นปัญหา เพื่อป้องกันภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ ส่วนเรื่องงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วมในแต่ละจังหวัด ถ้าไม่เพียงพอสามารถของบกลางได้ ซึ่งแต่ละจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลอยู่แล้ว

ส่วนสถานการณ์ในจังหวัดสุโขทัย ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า น้ำยมในขณะนี้ มีการปล่อยน้ำ 1,600-1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเราพยายามกระจายน้ำให้ออกไปทางซ้ายขวา ให้ไหลไปสู่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งสถานการณ์ที่ พะเยา แพร่ และน่าน ถือว่าประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก โดยในวันพรุ่งนี้ ตนจะลงพื้นที่โดยด่วน

ร.อ.ธรรมนัส ยังระบุว่า ส่วนจังหวัดที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม เพราะรับน้ำจากแม่น้ำยม เช่น สุโขทัย พิษณุโลก กว่าน้ำจะถึงใช้ระยะเวลา 3 วัน จึงต้องเร่งระบายน้ำออกให้เยอะที่สุด

ส่วนที่มีความกังวลว่า สถานการณ์น้ำวันนี้จะท่วมหนักกว่าปี 2554 นายภูมิธรรม ระบุว่า “อย่าสร้างความตระหนกตกใจ พอแค่นี้ ประชาชนเดือดร้อนมากพอแล้ว ปริมาณน้ำในขณะนี้ดำเนินการได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย น้ำมาก็จะหนัก ถ้าฝนไม่ตกก็จะเบา และต้องดูด้วยว่าเรามีศักยภาพมากแค่ไหน ไม่มีอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรง เราเอาอยู่ ในขณะนี้ยังไม่มีพายุเข้า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้”

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ปริมาณน้ำปี 54 กับปีนี้ไม่เหมือนกัน ไม่อยากให้ประชาชนต้องตื่นตระหนก เพราะเขื่อนหลักทั้ง 3 แห่ง ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ทุกกระทรวงเรามีการบูรณาการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเฉพาะหน้าอยู่แล้ว อันไหนที่สามารถแก้ไขได้จะเร่งแก้ไขทันที