โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียโดนฟ้องร้อง เนื่องจากใช้เวลายาวนานถึง 361 วัน กว่าจะแจ้งเตือนครอบครัวของคนไข้หญิงคนหนึ่ง ว่าเธอเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ครอบครัวคิดว่าเธอกลายเป็นบุคคลสูญหาย และออกตามหาตัวเธออย่างไม่ลดละก่อนรู้ข่าว

เจสซี ปีเตอร์สัน วัย 31 ปี เข้ารับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์เมอร์ซี ซานฮวน เมืองคาร์ไมเคิล รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2023 เนื่องจากอาการป่วยของโรคเบาหวาน โดยเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานประเภท 1 เมื่ออายุได้ 10 ขวบ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2023 ปีเตอร์สันได้โทรฯ หา จิงเจอร์ คองกี แม่ของเธอ เพื่อขอให้ไปรับเธอที่โรงพยาบาล แต่เธอกลับเสียชีวิตในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำร่างของเธอไปยังห้องเก็บศพในวันรุ่งขึ้น และร่างของเธอก็ยังคงอยู่ที่นั่นอีกนานเกือบ 1 ปี

หลังจากที่ผ่านไปหลายวันโดยไม่ได้รับการติดต่อจากปีเตอร์สัน แม่ของเธอจึงได้โทรฯ ติดต่อโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 เพื่อสอบถามอาการของเธอ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกกับเธอว่า ปีเตอร์สันออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ทั้งที่ขัดต่อคำแนะนำของแพทย์ 

ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจึงเริ่มออกตามหาตัวเธอไปทั่วประเทศ มีการแจ้งความว่าเธอคือบุคคลสูญหายต่อสำนักงานนายอำเภอเขตซาคราเมนโตเคาน์ตี และสำนักงานยุติธรรมของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อใส่ชื่อปีเตอร์สันลงไปในเว็บไซต์ฐานข้อมูลบุคคลสูญหาย

นอกจากนี้ ครอบครัวของปีเตอร์สันยังแจกใบปลิวและติดต่อไปยังกรมตำรวจและโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อตามหาเธอ แองจี รูบิโน น้องสาวของปีเตอร์สัน ลงทุนเข้าไปพูดคุยกับคนไร้บ้านในพื้นที่ที่พี่สาวของเธอหายตัวไปเพื่อสืบหาข้อมูล

เจสซี ปีเตอร์สัน เสียชีวิตในเดือน เม.ย. 2566 แต่ครอบครัวของเธอเพิ่งรู้ข่าวในปีถัดมา

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2567 ตัวแทนจากสำนักงานนายอำเภอซาคราเมนโตเคาน์ตี ได้ติดต่อไปยังครอบครัวของปีเตอร์สัน เพื่อแจ้งว่าหญิงสาวเสียชีวิตแล้ว ร่างของเธออยู่ในช่องเก็บศพที่ห้องเย็นของโรงพยาบาล โดยมีป้ายรหัสกำกับไว้ว่า “Red 22 A” รวมเวลาทั้งหมดที่ศพของเธออยู่ที่นั่นคือ 361 วัน

กรมนายอำเภอชี้ว่า แพทย์ที่โรงพยาบาลได้ออกใบมรณบัตรไปแล้ว ซึ่งตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย จะต้องมีนายแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพออกใบมรณบัตรภายใน 15 ชั่วโมง หลังจากมีผู้ป่วยเสียชีวิต

ขณะนี้ครอบครัวของปีเตอร์สันเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงและเรียกร้องค่าเสียหาย 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 858.4 ล้านบาท) รวมทั้งค่าเสียหายเชิงลงโทษ สำหรับ “ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและไม่อาจให้อภัยได้” ในการจัดการคนไข้ที่เสียชีวิตรายนี้

ครอบครัวของปีเตอร์สันกล่าวว่า บันทึกทางการแพทย์ที่ขาดความสอดคล้องกัน ไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นกับปีเตอร์สัน หรือเหตุใดจึงใช้เวลานานมากในการแจ้งให้ครอบครัวทราบถึงการเสียชีวิตของเธอ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครอบครัวของเธอพบศพ ร่างของปีเตอร์สันก็เน่าเปื่อยไปมากจนไม่สามารถทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อตรวจสอบรายละเอียดอื่นใดได้อีกต่อไป

ด้านโฆษกของโรงพยาบาลกล่าวกับหนังสือพิมพ์ในแถลงการณ์ว่า “เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้ตายในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีความที่อยู่ระหว่างดำเนินการได้”

ที่มา : independent.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Facebook / JessiePeterson