เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รมช.คลัง กล่าวยอมรับถึงกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า มีการพูดคุยรายละเอียดภายในพรรคเพื่อไทยจริง แต่ตนไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากจะต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดทำนโยบายด้วย ซึ่งก็ได้รับการสอบถามจากพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคการเมืองว่า จะมีการนัดพูดคุย เพื่อจัดทำนโยบายของรัฐบาลเมื่อใด เพื่อเดินหน้านโยบายภายใต้งบประมาณที่มีจำกัด

เมื่อถามถึง กระแสข่าวการแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรก วงเงิน 122,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม และเป็นการแจกเป็นเงินสด ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนในครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาทนั้น นายจุลพันธ์  กล่าวว่า ขณะนี้ ยังมีหลายแนวคิด แต่ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด แต่ยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยรูปแบบอาจจะต้องปรับเปลี่ยนในบางส่วน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ซึ่งเป็นรูปแบบที่คณะรัฐมนตรีชุดนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กำหนดรูปแบบไว้ ได้มีมติไปแล้ว และยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติก่อน แต่เมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ และได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ และมั่นใจว่า จะเป็นการปรับเปลี่ยนที่ถูกใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น รวมถึงประเด็นข้อห่วงใยตามกฎหมายต่างๆ ก็จะต้องมีการปรับแก้เช่นกัน เพื่อให้สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นให้ได้

นายจุลพันธ์ กล่าวถึงงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2567  วงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบไปแล้ว และรัฐบาลจะต้องเร่งเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้  ว่า ในส่วนการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เร่งรัดอยู่แล้วในการดำเนินการ ทั้งเรื่องการส่งชื่อตรวจที่ได้ดำเนินการไปแล้วในขณะนี้ แต่การจัดตั้งรัฐบาลรวมถึงการแถลงนโยบายจะต้องเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับกรอบงบประมาณ ปี 67 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งตนก็ได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าจะดำเนินการได้ทัน

เมื่อถามย้ำว่า จะใช้ตามที่ได้ขอไปใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่อนุมัติมา ถ้าใช้ไม่ทันก็พักไป เป็นไปตามกฎหมาย ดำเนินการอย่างอื่นไม่ได้

เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์ยังเป็นไตรมาส 4 เหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงโดยรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า กรณีที่จะมีการเปลี่ยนไปแจกเงินสดหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มีโอกาสเปลี่ยนเป็นทุกอย่าง เราคิดแล้ว และมีการพูดคุยบ้างแล้ว แต่เมื่อยังไม่มีข้อตกลงออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ตนคงพูดมากกว่านี้ไม่ได้ แต่คาดว่าจะทราบเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าการแถลงนโยบายจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้  สำหรับการเปลี่ยนไปใช้งบกลางนั้น เป็นสิ่งที่ได้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อครั้งรัฐบาลของนายเศรษฐายังมีอำนาจเต็ม ซึ่งได้มีการดำเนินการผ่านขั้นตอนของ ครม.ส่งเข้ามาที่ กมธ.งบฯ และเป็นการพิจารณาของสมาชิกใน กมธ.งบฯ ดังนั้น ขั้นตอนนี้เลยจากขั้นตอนของรัฐมาสู่ส่วนนิติบัญญัติแล้ว และวันนี้ก็ได้ดำเนินการพิจารณาอย่างครบถ้วนแล้ว

หากพูดถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ยังค้างอยู่ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยงานที่ถูกชะลอไว้เพื่อกลับมาพิจารณาใหม่นั้น ก็ผ่านแล้ว ในส่วนการแปรญัตติปรับเพิ่มเปลี่ยนแปลงก็ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในวันนี้ สำหรับในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะมีการสงวนความเห็นของ สส. และจะมีการพิจารณาในส่วนของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้ขอจัดสรรงบประมาณในวันที่ 23 ส.ค.นี้ และสัปดาห์หน้าจะเป็นการทบทวนรายงานและลงมติรายมาตรา จากนั้นวันที่ 4-6 ก.ย.นี้ ก็จะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 

รมช.คลัง กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องโยกงบชำระหนี้คืนมาเป็นงบกลางนั้น เป็นการเสนอจากส่วนงานมาเอง ในการปรับลดเพื่อโอนถ่ายภารกิจมายังโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นสิ่งที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการแน่นอน ส่วนหนึ่งเพราะเรารู้ว่ามีความจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการนี้  จึงมีการขยับส่วนงบประมาณที่ไม่กระทบ ตามที่เคยถามกันไว้ว่า การบริหารงบประมาณจำนวนกว่า 122,000 ล้านบาทจะทำอย่างไร นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในกลไกที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย.