เมื่อวันที่ 21 ส.ค. จากกรณีที่รายการโหนกระแส พูดคุยกรณี จ่าพั้นช์ ทหารหนุ่มยศ จ่าสิบเอก ถูกยิงเสียชีวิตในสถานบันเทิงชื่อดังในหัวหิน ชายผู้ต้องหา อายุ 34 ปี มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา กก.ตร.สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงตี 4 ของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางครอบครัว จ่าพั้นช์ ประกาศยังไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม

ภรรยาของจ่าพั้นช์ เปิดเผยว่า จดทะเบียนสมรสกับจ่าพั้นช์มาประมาณ 3 ปี วางแผนที่จะจัดงานแต่งและมีลูกแฝดด้วยกันปลายปีนี้ แต่ก็ต้องมาเกิดเรื่องเศร้าเสียก่อน วันเกิดเหตุ จ่าพั้นช์ อยู่บ้านกับคุณแม่ที่ อ.หัวหิน ส่วนคุณพ่ออยู่ที่ จ.ลพบุรี ส่วนภรรยาอยู่อีกที่หนึ่ง ช่วงประมาณตี 1 จ่าพั้นช์โทรฯ หาภรรยา ขออนุญาตไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่ร้านแห่งหนึ่งที่บ้านใหญ่หัวหิน  พอประมาณตี 4 เศษ มีคนโทรฯ มาแจ้งภรรยาว่า จ่าพั้นช์ถูกยิงเสียชีวิต สาเหตุแค่เพราะว่าไปชนผู้หญิงของโต๊ะข้างๆ

เพื่อนของจ่าพั้นช์ ที่ไปด้วยกันในคืนดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ตอนที่เกิดเหตุว่า ช่วงตี 4 จ่าพั้นช์กำลังเต้นสนุก เรายังอัดวิดีโอเพื่อนเราตอนเต้น ตอนเวลา 04.01 น. ต่อมาจ่าพั้นช์จะเอื้อมมือไปรับเหล้าที่เพื่อนส่งให้ จังหวะที่ยืดตัวไปรับแก้ว ตัวจ่าพั้นช์ไปเบียดโดนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ที่โต๊ะคู่กรณี รอบแรกยังไม่มีอะไร แต่พอยังเอื้อมไม่ถึง ก็เลยยืดตัวไปรับแก้วอีก จนไปเบียดโดนผู้หญิงคนเดิม จนเขาเซไปชนแฟนเขา ซึ่งเป็นคนยิง จากนั้นเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ชักปืนออกมายิงจ่าพั้นช์ทันที ตนถ่ายคลิปตอนที่จ่าพั้นช์โดนยิงแล้ว และพยายามจะวิ่งหนี เวลาขึ้น 04.02 น. ซึ่งห่างจากคลิปแรกที่จ่าพั้นช์ยังเต้นอยู่แค่ 1 นาทีเอง

แต่สิ่งที่ทำให้เป็นประเด็นถกเถียง คือเรื่องสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ ยังเปิดอยู่ได้ยังไงตอนตี 4 เพราะเท่าที่ทราบ สถานบันเทิงที่เปิดได้ถึงตี 4 มีแค่ในพื้นที่ที่จัดโซนนิ่งเท่านั้น

ซึ่งทนายไพศาลให้ข้อมูลว่า พื้นที่โซนนิ่งที่เปิดได้ มีแค่ท้องที่จังหวัดนำร่อง กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย ซึ่งที่เกิดเหตุที่หัวหินไม่มีทางเปิดได้อย่างถูกต้องแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่า หลังเกิดเหตุ มีพนักงานของร้านกำลังถอดกล้องวงจรปิดออก ซึ่งตำรวจก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย และผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็น กก.ตร. มีภาพที่ดูสนิทสนมกับ ผกก.สภ.หัวหิน เคยรับรางวัลจาก ผกก.สภ.หัวหินด้วย ตนจึงไม่แน่ใจว่า ที่ถอดกล้องวงจรปิด ถอดเพื่อเก็บหลักฐาน หรือ ทำลายหลักฐาน หากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุเป็นหลักฐานที่อยู่กับตำรวจ ทางครอบครัวอยากจะได้ดูเหตุการณ์ทั้งหมดและขณะเกิดเหตุตนทราบมาว่ามีตำรวจในท้องที่นั่งอยู่ในร้านขณะนั้นด้วย

นอกจากนี้ยังมีการโฟนอินคุยกับผู้เสียหาย 2 คนที่โดนลูกหลงจากเหตุการณ์ครั้งนี้  คนแรกคือ คุณถา เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่โดนลูกหลง กระสุนยังฝังใน ยังนอน รพ. อยู่ ยังไม่สามารถผ่าเอากระสุนออกได้ เพราะกระสุนฝังอยู่ใกล้เส้นประสาท อันตรายที่จะผ่า หมอยังไม่สามารถรับปากได้ว่าจะกลับมาเดินได้หรือไม่

อีกคนคือแม่ของผู้เสียหายอีกคน ที่โดนลูกหลง ถูกกระสุนเข้าที่ร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน สิ่งที่ทั้ง 2 คนพูดตรงกันก็คือ ตำรวจไม่ได้ออกเป็นใบแจ้งความให้ เป็นแค่ใบลงบันทึกประจำวัน

ขณะที่เซ็น ผู้ก่อเหตุโฟนอินเข้ามา เล่าเหตุการณ์ในมุมของตัวเองว่า ตนนั่งดื่มกินอยู่ตามปกติ จ่าพั้นช์เขามาเต้นเบียด มาชนผู้หญิงที่อยู่กับตน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้อะไรกับเขา ยังยิ้มให้ตามอัธยาศัยปกติ แต่เขาก็ยังปีนขึ้นมาบนโต๊ะพูล มาเต้นเบียด จนศอก แขน เขามากระแทกโดนตน ตนก็เลยบอกเพื่อนๆ ว่า เดี๋ยวเราย้ายร้านกันดีกว่า ระหว่างรอเช็กบิลก็ยังไม่จบ จ่าพั้นช์ยังโดดลงมา มาเบียดมาชนพวกตนไม่หยุด จนสุดท้ายตนก็เลยลงมือทำไปตามที่ให้การรับสารภาพ

แต่ที่มีการไปกล่าวอ้างว่า พวกตนยิงปืนเปิดทางตอนหลบหนี ต้องออกมาพูดกันให้ชัดว่าใครกันแน่เป็นคนยิง ใครที่ไล่ยิงขู่แล้วบอกว่า “ไหนใครเพื่อนไอ้เซ็น” อยากให้ฝ่ายคู่กรณีพูดความจริงดีกว่า

สิ่งที่ตนทำลงไปก็ยอมรับว่าเสียใจ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ตนทำงานในฐานะ กต.ตร.เพราะต้องการจะช่วยเหลือคน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ สิ่งที่ตนพอจะบอกได้ คือถ้าไปถามคนในพื้นที่ หรือคนที่เคยเห็นพฤติกรรมของกลุ่มเพื่อนจ่าพั้นช์ ก็จะรู้ว่า ถ้าวันนั้นตนไม่สู้ ตนก็คงเป็นฝ่ายที่ตายไปแล้ว

ทนายไพศาลฟังสิ่งที่เซ็นอ้างมาทั้งหมด บอกว่า ฟังไม่ขึ้น ประเด็นแรกคือการพกอาวุธปืนไปสถานบันเทิงตั้งแต่แรก ประเด็นที่จะอ้างป้องกันตัว ยิงนัดเดียวภยันตรายมันพ้นตัวไปแล้ว แต่ยังมีการยิงต่ออีกหลายนัด รวมทั้งการหยิบยกเรื่องโพสต์เก่าๆ ของกลุ่มคู่กรณี มาอ้างว่าจะถูกทำร้าย ถูกตามเก็บ มันเป็นการอ้างลอยๆ เพราะเซ็นก็รับเองว่า ไม่เห็นว่าจ่าพั้นช์มีอาวุธปืนหรือไม่

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เซ็นต้องไปต่อสู้ในทางคดีเอาเอง เพราะเท่าที่ดูมันฟังไม่ขึ้นหลายอย่าง และที่สำคัญ พฤติกรรมของเซ็นก็สุ่มเสี่ยงที่อาจจะถูกถอนประกันด้วย