เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พามิสเตอร์ชินอิจิ มาเอดะ ชาวญี่ปุ่น อายุ 51 ปี เปิดบริษัทส่งออกเสื้อผ้า โบ๊เบ๊-ประตูน้ำ ส่งไปขายที่ญี่ปุ่น พร้อมกับ น.ส.น้ำตาล เพชรพัชรประสิทธิ์ อายุ 34 ปี เลขาฯ ส่วนตัว ได้นำหลักฐานเข้าพบ พ.ต.ต.นที วุฒิภาธรณ์ สว.สอบสวน กก.1.บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกหลอกให้ต่อวีซ่าถาวร สูญเงินกว่า 3 แสนบาท ซ้ำถูก ตร.ไซเบอร์ รีดเงินอีก 10,000 บาท

น.ส.น้ำตาล เปิดเผยว่า เจ้านายของตน หรือมิสเตอร์ชินอิจิ อยู่เมืองไทยมาประมาณ 20 ปี เริ่มทำธุรกิจมา 14 ปี แรกเริ่มเข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว แต่เมื่อประกอบธุรกิจจึงอยากได้วีซ่าถาวร เพราะไม่อยากต่อวีซ่าในทุกๆ ปี จึงว่าจ้างชายไทยรายหนึ่ง จากการแนะนำของคนที่รู้จัก ที่อ้างว่าสามารถทำวีซ่าถาวรให้ได้ ซึ่งทางมิสเตอร์ชินอิจิ ได้ติดต่อกับชายรายนี้ผ่านการพบหน้าและคุยกันผ่านไลน์ ก่อนที่จะโอนเงินให้ทั้งหมด 16 ครั้ง ในห้วงปี 2019-2024 เป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท แต่กลับไม่มีความคืบหน้า และไม่มีการแจ้งว่าดำเนินการไปถึงขั้นไหนแล้ว ทางมิสเตอร์ชินอิจิ จึงได้เดินทางไปที่ บก.สตม.1 เพื่อตรวจสอบวีซ่า แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า วีซ่าของมิสเตอร์ชินอิจิ มีปัญหา ซ้ำยังมีคนส่งลิงก์ข่าวเกี่ยวกับชายรายนี้ว่า เคยมีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะนี้มาแล้ว จึงทำให้มั่นใจแล้วว่าถูกหลอก

ด้านมิสเอตร์ชินอิจิ กล่าวว่า ตนได้เข้าแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงไว้ที่ สน.เพชรเกษม และได้มีคนแนะนำให้เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ที่เมืองทอง ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ บช.สอท. แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของไซเบอร์ได้แนะนำกับตนว่า ให้เปลี่ยนไปเป็นทำสัญญาเงินกู้ เพื่อเปลี่ยนคดีจากอาญาไปเป็นคดีแพ่ง เพื่อที่จะได้เงินคืน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ยังได้บอกกับตนว่าจะดำเนินการให้ แต่ต้องจ่ายค่ากาแฟ 5,000 บาท และมีการยืมเงินอีก 5,000 บาท ตนก็ได้ให้ไป แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ตนจึงมาร้องทุกข์ที่กองปราบฯ ในวันนี้ เพราะอยากได้เงินคืน หรือหากไม่ได้เงินคืน ก็อยากดำเนินการตามกฎหมาย.