เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ปชป.ร่วมรัฐบาล = ฆ่าตัวตาย ครั้งที่ 2” โดยระบุว่า ตนเห็นท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อการอยากร่วมรัฐบาล ตั้งแต่ตอนโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และการโหวตงดออกเสียงในการเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการทอดไมตรีและรักษาน้ำใจ โดยมีความหวังลึกๆ เพื่อต้องการจะเข้าร่วมรัฐบาล แม้วันนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุย ถ้ามีการประสานงานมา จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค รวมถึงขอมติจากกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคทันที

นายเทพไท ระบุอึกว่า ตนในฐานะเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมเข้าใจและอ่านเกมได้ทะลุปรุโปร่งว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเข้าร่วมรัฐบาล โดยจะใช้มติพรรคบังคับให้ผู้อาวุโสของพรรคปฏิบัติตาม และพยายามอย่างที่สุดที่จะเป็นรัฐบาลให้ได้ โดยไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและอุดมการณ์ที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณมาเป็นเวลา 20 ปี ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้อีก ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง ครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกการฆ่าตัวตายของพรรคประชาธิปัตย์ จากการมีมติด้วยเสียง 21 ต่อ 17 เข้าร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยอ้างเหตุผลว่า ต้องการสร้างผลงานช่วยเหลือประชาชน โดยยอมเสียหลักการและเสียคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่ต้องการเป็นรัฐบาล ทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องลาออกจาก สส. ในทันที และผลของการเป็นรัฐบาลในครั้งนั้นทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำ มี สส. ลดเหลือ 25 คน และเหลือเสียงสนับสนุน 900,000 เสียง เป็นการตกต่ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 78 ปีของพรรคประชาธิปัตย์

นายเทพไท ระบุว่า ในครั้งนี้ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร โดยไม่แคร์ความรู้สึกของผู้อาวุโสภายในพรรค มวลสมาชิกและประชาชนผู้สนับสนุน ก็อาจทำให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หายไปอีก และพรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำลงอีก ถ้ากรรมการบริหารและ สส.ชุดนี้คิดแบบนี้ ก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง จะไม่เหลืออุดมการณ์และจุดยืนของพรรค ในการต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบอย่างแน่นอน

“ถ้าผมเป็นผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผมจะประกาศเป็นฝ่ายค้าน ต่อสู้กับระบอบทักษิณเพื่อเรียกศรัทธาคืนมา จะเป็นหัวหอกของฝ่ายอนุรักษนิยม และจะใช้อุดมการณ์ทางการเมืองต่อสู้ในสนามเลือกตั้งมากกว่าสะสมทุน เพื่อไปซื้อเสียง ซึ่งไม่ใช่แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์” นายเทพไท ระบุ