สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ว่าเส้นทางน้ำและชายหาดที่สวยงามของนครซิดนีย์ ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของออสเตรเลีย มีความเสี่ยงต่อระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างมาก หากไม่มีความพยายามมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวเซาท์เวลส์เตือนว่า เมืองซิดนีย์อาจร้อนขึ้น 1.8 องศาเซลเซียส ภายในปี 2593 และเพิ่มอีกสองเท่าภายในปี 2633 หากไม่มีการควบคุมภาวะโลกร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะนำมาซึ่งปัญหาให้กับชุมชนริมชายฝั่งหลายแห่ง และชุมชนที่อยู่ใกล้ป่าพรุที่แห้งแล้ง
รายงานเตือนว่า ซิดนีย์ฮาร์เบอร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ หรือโรงอุปรากรซิดนีย์ และสะพานฮาร์เบอร์ที่ข้ามอ่าวซิดนีย์ จะมีความเสี่ยงจมน้ำ เช่นเดียวกับชายหาดทางตอนเหนือของเมือง ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้น 56 ซม. ภายในปี 2633
ขณะที่เมืองในภูมิภาคซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งมีแนวโน้มเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดมากที่สุด โดยในปี 2633 จะมีช่วงเวลาซึ่งมีอากาศร้อนอบอ้าวถึง 35 องศาเซลเซียส ครอบคลุมระยะเวลาถึง 1 ใน 3 ของปี
รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ขณะที่ทางการกำลังดิ้นรนหาวิธีเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต มาตรการที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ได้แก่ การสร้างที่หลบภัยจากความร้อนที่มีร่มเงา เพื่อให้ผู้คนหลีกหนีจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้น หรือการสร้างโรงพยาบาลให้มีทรัพยากรที่เพียงพอ เพื่อรับมือกับอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อน
ข้อมูลด้านสุขภาพแห่งชาติของออสเตรเลีย ระบุว่า ความร้อนจัดเป็นปัจจัยหลักจากสภาพอากาศหลัก ที่ทำให้ผู้คนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สถิติระหว่างปี 2555-2565 สภาพอากาศร้อนจัดทำให้ผู้คนเจ็บป่วย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 7,104 คน และเสียชีวิต 293 ราย.
เครดิตภาพ : AFP