ชูครุ ฮัสกาน โดนคนร้ายชิงโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน 14” ไปจากมือของเขาแบบซึ่งหน้าที่ถนนบรอมพ์ตัน ย่านไนท์สบริดจ์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในยามดึกของวันที่ 30 ก.ค. 2567 ระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้าน
คนร้ายใช้รถจักรยานไฟฟ้าเป็นพาหนะ จึงหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็วหลังจาก “ฉก” โทรศัพท์ในมือของฮัสกานไปได้
หนุ่มวัย 41 ปีผู้เคราะห์ร้ายรู้สึก “สิ้นหวัง” มาก แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โพสต์ภาพและข้อความลงบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ซึ่งแสดงร่องรอยของ “การเดินทาง” ที่น่าทึ่งของไอโฟนที่โดนขโมยของเขา
นอกจากนี้ เขายังโพสต์คลิปวิดีโอของชายคนหนึ่งที่โดนขโมยโทรศัพท์มือถือในลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่า “นี่มันบ้าชัดๆ”
ฮัสกานโพสต์บอกว่า หลังจากที่ไอโฟน 14 ของเขาโดนขโมยเมื่อเวลาประมาณ 23.08 น. ของวันที่ 30 ก.ค. 2567 เขาก็เจอสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเขาที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คตอน 23.15 น. จากนั้นก็เคลื่อนต่อไปยังสวนสาธารณะฟินส์บูรี เมื่อเวลา 00.55 น. ของวันที่ 31 ก.ค. 2567
เขาระบุรายละเอียดว่าเจอสัญญาณของไอโฟนเครื่องนี้ที่แยกถนนสเทราด์กรีน, ถนนแบล็คสต็อค และถนนเซเวน ซิสเตอร์ส ที่อยู่ติดกับสวนสาธารณะฟินส์บูรี
จุดสุดท้ายที่เขาจับสัญญาณไอโฟนได้คือโรงเรียนประถมศึกษาอัลเดอร์สบรูค เมื่อเวลา 14.45 น. ของวันที่ 1 ส.ค. 2567 แต่การเดินทางของไอโฟนที่สูญหายของเขาไม่ได้จบลงแค่นั้น
ชายหนุ่มเชื้อชาติตุรกีที่ผันตัวมาเป็นนักการเงินชาวลอนดอนเล่าว่า หลังจากเกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบปากคำ ระหว่างนั้นเองที่เขาเห็นสัญญาณของไอโฟนที่โดนขโมยไปปรากฏตามที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงลอนดอน ชายหนุ่มกล่าวว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เขาเสื่อมศรัทธาในระบบรักษาความปลอดภัยของประชาชนอย่างมาก
แม้ว่าฮัสกานจะพยายามไล่ตามไอโฟนของเขาจากโจรมือไว แต่ก็ยังไม่ทันการ เมื่อถึงวันที่ 15 ส.ค. 2567 เขาก็เจอสัญญาณไอโฟน 14 ของเขาอีกครั้งจากการใช้งานฟีเจอร์ “ค้นหาไอโฟนของฉัน” และคราวนี้มันอยู่ห่างออกไปเกือบ 12,000 กม. ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียง “เมืองไอที” ของจีน แต่ยังเป็นแหล่งใหญ่ในการซื้อขายอุปกรณ์ไฮเทคที่โดนขโมยมาจากทั่วโลกอีกด้วย
ตำรวจให้ข้อมูลว่า การปลดล็อกเครื่องไอโฟนเพื่อนำไปขายต่อ รวมถึงการแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อขายให้โรงงานรีไซเคิลที่เซินเจิ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก
ฮัสกานกล่าวว่า สิ่งที่เขาไม่พอใจอย่างมากก็คือหลังจากที่โทรศัพท์มือถือเขาโดนขโมย มันก็โดนส่งออกไปยังประเทศอื่นที่ห่างไกลได้อย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มยังบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดคดีของเขาไปแล้ว โดยสรุปว่า “ไม่สามารถหาตัวผู้ต้องสงสัยจนพบ”
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES