เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ นายกฯ แล้ว ต่อไปคือการตั้ง “ครม.แพทองธาร 1” โดย “อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ขอทำให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินเดือน ซึ่งให้แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาคุณสมบัติมาระดับหนึ่งก่อน แล้วส่งรายชื่อผู้ที่พรรคเลือกเป็นรัฐมนตรี ตามโควตาเดิมมาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตรวจสอบประวัติอีก การแต่งตั้ง ครม.ชุดนี้จำเป็นจะต้องดูเรื่องของคุณสมบัติเป็นพิเศษ เพื่อไม่อยากให้เกิดสิ่งที่ผิดพลาด และไม่อยากให้ใช้เวลานาน แต่วันที่ 19 ส.ค.ยังไม่เคาะตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ จะแจ้งไปที่พรรคร่วมรัฐบาลให้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีตามโควตาเดิมมาก่อน ให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกฯ ก่อนที่จะนำชื่อส่งให้ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาฯ ครม. และส่งต่อไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตรวจสอบประวัติ วันที่ 20 ส.ค.ทุกพรรคจะเสนอชื่อมา ส่วนจะปรับเปลี่ยนอย่างไรขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี
ที่น่าสนใจคือ นายภูมิธรรมเปรยๆ ราวกับว่า “บางพรรคไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้ว” โดยบอกว่า บางพรรคคงไม่สบายใจ จะเปลี่ยนใคร เปลี่ยนอะไรได้ทั้งนั้น เห็นไปตบหัวนักข่าว ใครไม่สบายใจจะอยู่ด้วยกันก็น่าจะรู้ตัว ไม่กล้าคุยกับ พปชร.เพราะเห็นว่าอารมณ์ไม่ดี “ขอให้ไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่ายังโอเคหรือเปล่า เห็นว่าไม่สบายใจเรื่องอะไรผมก็ไม่รู้ ที่ พล.อ.ประวิตรไม่ไปโหวต น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ก็ต้องถามใจ พล.อ.ประวิตรดู ที่ไม่ไปโหวตเพราะว่า ไม่อยากร่วมรัฐบาล หรือคิดว่าพอแล้ว”
เรื่องอยากเขี่ย พปชร.พ้นรัฐบาลนี้มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเศรษฐา พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้ตระกูลวงษ์สุวรรณร่วมรัฐบาล ทางพรรคเห็นว่า อยู่ที่คนในตระกูลนี้คิดเอง เขารู้อยู่แก่ใจแล้วว่าควรจะอยู่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่มองว่าเขาน่าจะไม่เข้าร่วม เพราะพรรคเพื่อไทยไม่พอใจและไม่สบายใจในหลายๆ เรื่อง เช่น กรณีที่ พล.อ.ประวิตร อยู่เบื้องหลังการให้ 40 สว. ยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง
แม้คนของพรรคเพื่อไทยแสดงให้เห็นว่า “ไม่ต้อนรับพวกวงษ์สุวรรณ” แต่แกนนำพรรค พปชร.ไปหารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทยช่วงบ่าย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์กับเนชั่นทีวี ยืนยันเสียงแข็งว่า “พรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล ฉันร่วมรัฐบาล” ที่ไม่ไปร่วมโหวต น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ เพราะติดงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งมีกำหนดการล่วงหน้ามานานแล้ว
ต่อมา พล.อ.ประวิตรได้โทรฯ ไปเคลียร์ใจกับนายทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ในที่สุด บิ๊กป้อมก็ส่งโผ ครม.ของ พปชร. ระบุ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยังอยู่ที่เดิม นายสันติ พร้อมพัฒน์ จะผงาดขึ้นเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ แทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่จะหลุดขบวน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า “พรรคร่วมรัฐบาลเขาไม่เอา” นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ยังคงเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตำแหน่งที่ว่างลง คือ รมช.สาธารณสุข คาดว่าจะส่งชื่อนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพรรคมาดำรงตำแหน่ง
..สมัยเลือกตั้งหน้า พรรค พปชร.มีโอกาสแตกสูงมาก เพราะมีทั้งข่าวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. จะนำกลุ่ม สส.ภาคกลางตอนบนกลับเพื่อไทย ตรงนี้จึงอาจ “รับประกันความปลอดภัย” ของกลุ่มนายสันติได้ระดับหนึ่ง และข่าวที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้า ซึ่งสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส ก็ไปเป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ซึ่งอาจต้องวัดพลังว่า ครั้งนี้จะมี สส.ตาม ร.อ.ธรรมนัสไปมากน้อยเพียงใด
ด้านพรรคภูมิใจไทย จะเสนอรายชื่อรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีและบุคคลเดิม จำนวน 8 ตำแหน่ง ได้แก่ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย 2.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็น รมว.ศึกษาธิการ 3.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 4.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) 5.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 6.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย 7.นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ 8 .นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยืนยันรายชื่อตามที่เป็นข่าว คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกฯ และรมว.พลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็น รมว.อุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็น รมช.พาณิชย์ ส่วน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้เป็น รมช.กระทรวงใด
ข่าวว่า การคัดกรองคุณสมบัติเที่ยวนี้เข้มสุดๆ ทางพรรคเพื่อไทยจะไม่เลือกใครที่เคยมีคดีความ ทำให้มีบุคคลที่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้หลายคน อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากมีปัญหาศาลอุทธรณ์คดีอาญารัฐนิวเซาท์เวลส์ เคยพิพากษา รับโทษจำคุกในคดีลักลอบนำเข้าและค้ายาเสพติด แม้ศาลรัฐธรรมนูญไทยจะเคยวินิจฉัยว่าไม่ขาดคุณสมบัติ แต่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะมีเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ด้วย จึงกังวลในเรื่องนี้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข เนื่องจากเคยถูกลบชื่อออกจากนักศึกษา ม.รามคำแหง เมื่อปี 42 เหตุให้ผู้อื่นปลอมบัตรนักศึกษา-ใบขับขี่ทุจริตการสอบวิชาปรัชญาเบื้องต้น นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีจ้างวานฆ่า สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง จึงต้องพิจารณารายละเอียดและข้อกฎหมายว่า เมื่อศาลยกคำร้องแล้ว จะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ล่าสุดมีรายชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเสนอมาดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมแทน เนื่องจากนายเอกนัฏเคยถูกศาลสั่งจำคุกคดี กปปส.
ส่วน รมว.คลังคนใหม่ หากคนนอกไม่ขอรับตำแหน่ง ก็จะผลักดันให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
การปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงเป็นที่น่าสนใจว่า วันที่ 20 ส.ค.นี้ จะมีโผเปิดมาแล้วมีการสลับกระทรวงที่แต่ละพรรคดูแลหรือไม่ มีข่าวว่า เพื่อไทยต้องการเก้าอี้ รมว.มหาดไทยกลับมาเพื่อให้นายภูมิธรรม เวชยชัย แต่คาดว่า ทางภูมิใจไทยคงไม่ยอมง่ายๆ เพราะเป็นกระทรวงใหญ่เกรดเอบวก
วันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เดินทางมาศาลอาญา สวมเสื้อเหลืองพร้อมสวมสูทสีดำทับ มาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม เพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง ในความผิดตาม ม.112 ที่ห้องพิจารณา 913 กรณีให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล เรื่องพยานหลักฐานเป็นเรื่องของทนายความ เป็นคดีที่เกิดขึ้นช่วงหลังการปฏิวัติใหม่ๆ ก็คงเป็นการใช้กฎหมายในการกระชับอำนาจ ซึ่งไม่กังวล
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวว่า ในการตรวจพยานหลักฐานคดี นายทักษิณให้การปฏิเสธ มีพยานฝ่ายบุคคลฝ่ายจำเลยจำนวน 14 ปาก และพยานเอกสารอื่นๆ ซึ่งจะนำเสนอในชั้นพิจารณาคดีต่อไป ส่วนฝ่ายโจทก์มีพยานทั้งสิ้น 10 ปาก เชื่อว่ามีการสอบสวนไปแล้ว และฝ่ายโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเพิ่มเติม เนื่องจากอาจจะเห็นว่าเป็นพยานที่ไม่มีประโยชน์ หรืออาจเป็นพยานที่ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของฝั่งจำเลยได้
และยังมีพยานผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามคลิปที่ปรากฏในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้คลิปที่มีการส่งตรวจตั้งแต่แรก เป็นการรวบรวมจากระบบอินเทอร์เน็ตลงในแผ่นซีดี ไม่ใช่หลักฐานจากสถานที่จริง เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบคลิปที่เป็นประเด็น ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ถึงความเป็นต้นฉบับ การตัดต่อและการแปลความเป็นภาษาไทยก็ไม่สมบูรณ์ ในเรื่องนี้มีภาษาอังกฤษเพียงคำเดียวที่เป็นปัญหาและนำไปสู่การกล่าวหานายทักษิณ
นายทักษิณว่าพร้อมที่จะมาสืบพยานทุกนัด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยตัวเอง
“ทีมข่าวการเมือง”