กรณี จ.ส.อ.โรจชนะภณ หรือ จ่าพันซ์ โรจน์ชนะภานิช อายุ 31 ปี นายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี ถูกยิงเสียชีวิต ภายในร้าน TINY Club ซอยหัวหิน 80 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น นายจักรกฤษ วรวงศ์พาณิชกุล อายุ 34 ปี ชาว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา กก.ตร.สภ.หัวหิน คนร้าย นำปืนที่ใช้ก่อเหตุ เข้ามอบตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ที่ปรึกษา กก.ตร.’ ปืนดุยิงดับทหารในคลับ นักเที่ยวโดนลูกหลงเจ็บ 2 ราย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 67 พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ทำการสอบปากคำ นายจักรกฤษ ไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวนายจักรกฤษ ในสภาพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น ใบหน้าอิดโรยและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไปส่งฟ้องศาลจังหวัดหัวหิน โดยนายจักรกฤษ ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนรายละเอียดจะให้ข้อมูลภายหลัง” ซึ่งคดีดังกล่าวมีรายงานว่า นายจักรกฤษ เตรียมทนายความถึง 4 คน ไว้ช่วยแก้ต่างสู้คดีให้

ขณะที่วันเดียวกัน นางสุภรดา วรรณพันธุ์ ผอ.โรงเรียนบ้านวังก์พง อ.ปราณบุรี มารดา จ.ส.อ.โรจชนะภณ ผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัว ได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดวังก์พง อ.ปราณบุรี มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ จ.ส.อ.โรจชนะภณ ตรงจุดที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในผับที่เกิดเหตุ โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพขณะทำพิธีแต่อย่างใด

นางสุภรดา กล่าวว่า ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวที่มีการเผยแพร่ข่าวให้ต่อเนื่อง คิดว่าลูกชายคงไม่ตายฟรี โดยช่วงเย็นวันนี้ คุณพ่อและลูกสาวจะนำร่างจ่าพันซ์กลับจากโรงพยาบาลตำรวจ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวังก์พง ปราณบุรี แต่จะยังไม่เผาศพจนกว่าครอบครัวจะได้รับความยุติธรรม ส่วนทางคดียังไม่มีการแจ้งความคืบหน้ามาที่แม่ คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ทั้งนี้ครอบครัวคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลและทุกช่องทาง โดยหวังว่าลูกชายจะได้รับความเป็นธรรม

น.ส.บัวบูชา ภรรยา จ.ส.อ.โรจชนะภณ กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมญาติๆ และหัวหน้างานจ่าพันซ์ ซึ่งเป็นนายทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ รวมกว่า 10 คน ร่วมยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีอิทธิพลและมีเงิน รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนกรณีข่าวลือว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตเรียกร้องเงินนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ครอบครัวเพียงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตเท่านั้น และไม่ต้องส่งคนมาเจรจา จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.