เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ แมนดาริน แกรนด์ บอลรูม โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จัดงานครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา 25 ปี โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน คณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงาน ปปง. เข้าร่วมงาน

นายเทพสุ กล่าวว่า ในปีที่ 25 นี้ สำนักงาน ปปง. ได้ยกระดับการขับเคลื่อนภารกิจงานโดยใช้กระบวนการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ที่เชื่อมโยงและส่งต่อกันอย่างเป็นระบบในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการฟอกเงินที่เปรียบเสมือนภัยร้าย กัดกร่อนทำลายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและปัญหาบัญชีม้า ที่ปัจจุบันสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในวงกว้าง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ๆ ที่สร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรง รวมทั้งยกระดับการปฏิบัติงาน เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้าน AML/CFT ด้วย

โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ อันประกอบด้วย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เดือน ต.ค. 66-ก.ค. 67) สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มูลค่ากว่า 25,631 ล้านบาท จำแนกได้ดังนี้ 1.ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดกว่า 7,878 ล้านบาท 2.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินกว่า 9,067 ล้านบาท 3.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในความผิดมูลฐานรวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 5,288 ล้านบาท 4.ส่งทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินไปยังกระทรวงการคลัง รวมมูลค่ากว่า 3,398 ล้านบาท

เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ส่วนผลงานที่เป็นรายคดีสำคัญ เช่น รายคดีฉ้อโกงประชาชนหลอกลงทุนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี ปปง. ได้มีการยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 597 ล้านบาท ส่วนรายคดีหุ้น STARK ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่าทั้งสิ้น ประมาณ 3,245 ล้านบาท ขณะที่คดีอั้ม PSV กับพวก ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 747 ล้านบาท ส่วนรายคดีกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ กับพวก กรณีปฏิบัติการ SAHELL GAME ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 10 ล้านบาท รายคดีกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 80 ล้านบาท รายคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัดสถานีหลักสี่กับพวก ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 136 ล้านบาท รายคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่กับพวก ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์สินประมาณ 1,017 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ยังสามารถติดตามเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคดียาเสพติดกลับคืนมาจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเงินกว่า 76 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นคดีแรกของไทยที่ยึดและอายัดทรัพย์ในต่างประเทศโดยใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และได้เงินกลับคืนมาสู่ประเทศไทยได้สำเร็จตามกระบวนการ Asset Recovery

เลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า ปปง. ยังได้ดำเนินมาตรการตัดท่อน้ำเลี้ยงทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงอย่างต่อเนื่อง โดยประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 6 (UN Sanction List) จำนวน 345 รายชื่อ, รายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 7 (Thailand Sanction List) จำนวน 49 ราย อันเป็นการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 เพื่อตัดเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยยังคงมุ่งมั่นดำเนินการบังคับใช้กฎหมายทั้งมาตรทางแพ่งและทางอาญาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน

เลขาธิการ ปปง. กล่าวด้วยว่า ปปง. ยังได้มีการประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาบัญชีม้าและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้ประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว 52,269 รายชื่อ ส่งผลให้สามารถจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของบัญชีที่เกี่ยวข้อง จำนวน 484,856 บัญชี สามารถป้องกันการนำบัญชีดังกล่าวไปใช้หลอกลวงหรือสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเงินคงเหลือในบัญชีที่ถูกจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งสิ้น 1,307,977,981.22 บาท

เลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า ปปง. ยังสนับสนุนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน และรองรับมาตรฐานสากลโดยดำเนินการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจนนำมาสู่การออกกฎกระทรวงการคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การนำเงินหรือทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้แก่ผู้เสียหายให้มีความชัดเจน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และเพื่อให้กระบวนการคืนเงินแก่ผู้เสียหายรวดเร็วยิ่งขึ้น

ปัจจุบันสำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างจัดทำร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อกำหนดกลไกให้ฝ่ายบริหารสามารถนำเงินไปคืนแก่ผู้เสียหายให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย ตลอดจนได้เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว รองรับการเข้ารับการประเมินมาตรฐานสากลในปี พ.ศ. 2570 ขณะนี้ร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติต่างๆ ของผู้มีหน้าที่รายงานให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการการกำกับดูแลผู้มีหน้าที่รายงานธุรกรรมอันเป็นการยกระดับมาตรการป้องกันระบบการเงินของประเทศไทยไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือก่ออาชญากรรมด้านอื่น ๆ

เลขาธิการ ปปง. ปิดท้ายว่า ปปง. ยังได้ปรับปรุงการบริหารงานของสำนักงาน ปปง. และบูรณาการในการทำงานกับภาคีเครือข่ายเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ได้นำระบบเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน การจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานทั้งด้านกำกับตรวจสอบผู้มีหน้าที่รายงาน ด้านการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินและการดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพย์สิน เพื่อกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีทักษะที่เหมาะสมโดยเฉพาะทักษะด้านเทคโนโลยี เช่น การกำหนดช่องทางการยื่นคำร้องเพื่อขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการติดต่อกับสำนักงาน ปปง. เป็นต้น ทั้งนี้ ยังได้ร่วมจัดทำ MOU กับสำนักงาน ป.ป.ท. และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพื่อประสานการดำเนินคดี และช่วงปลายเดือน ส.ค. นี้ จะมีการลงนามเพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ ระหว่างสำนักงาน ปปง. ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งยังได้จัดทำ MOU กับต่างประเทศ เช่น กัวเตมาลา ติมอร์เลสเต และมัลดีฟส์ เพื่อเพิ่มความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการฟอกเงิน ตลอดจนประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เป็นผู้มีหน้าที่รายงานธุรกรรมและภาคประชาชน เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การเผยแพร่ความรู้ สร้างความตระหนักไม่ให้ประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงและการฟอกเงิน ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. ในปี 2567 ที่ผ่านมา และยืนยันว่าทุกภารกิจสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม และในปีที่ 26 สำนักงาน ปปง. จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกด้านอย่างแข็งขันและทุ่มเท เพื่อตัดวงจรการประกอบอาชญากรรม สร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ระบบการเงิน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชนสืบไป.