จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงป้าวัย 62 ปี พร้อมบุตรสาววัย 22 ปี เสียชีวิตคากระต๊อบริมบ่อกุ้ง พื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แม้แต่เด็ก 2 ขวบก็ไม่เว้น เดชะบุญกระสุนเฉี่ยวเอวบาดเจ็บ คาดปมเหตุจากไม่พอใจ ผู้ตายไปแจ้งความเรื่องยิงปืนข้างบ้าน นั้น

ล่า ‘มือปืน’ ใจโหดยิง ป้า-ลูกสาว ดับคากระต๊อบบ่อกุ้ง คาดไม่พอใจแจ้งความยิงปืนข้างบ้าน

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จ.สมุทรสาคร และตำรวจชุดสืบ ภ.จว.สิงห์บุรี นำโดย พ.ต.อ.จิตติ สามทอง ผกก.สส. ตำรวจภูธร จ.สิงห์บุรี หรือในนาม มือปราบขุนดง 2 พร้อมตำรวจ สภ.พรหมบุรี เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 6 ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี หลังสืบทราบว่าคนร้าย คือ นายชัชชัย พิมมะรัตน์ หรือเกียร์ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 223 ถนนถวาย ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ นายสุชัจจ์ วัชรประภาวดี หรือปาล์ม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 3 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 2 คนร้ายได้ก่อเหตุในพื้นที่สมุทรสาคร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวสป้า สีครีม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีมาบ้านญาติในเขตพื้นที่ จ.สิงห์บุรี

โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมบ้านเลขที่ดังกล่าว และกำลังจะเข้าจับกุมนั้น นายชัชชัย ได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อ ร.ต.ต.อิทธิพัทธ์ ชัยนา กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลพรหมบุรี ต่อมาตำรวจจึงได้วิสามัญ นายชัชชัย ที่ยิงสู้ พร้อมยึดของกลางอาวุธปืน 2 กระบอก ส่วน นายสุชัจจ์ ได้วิ่งหนีหลบเข้าป่า เจ้าหน้าที่ทำการปิดล้อม และใช้โทรโข่งให้ออกมามอบตัว ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง นายสุชัจจ์ ได้ตะโกนออกมาขอมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้

สอบถาม นางเฉลี่ย บุญวงศ์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า หลายชาย คือ นายชัชชัย ซึ่งตนได้เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต ต่อมาได้ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ที่ จ.สมุทรสาคร โดยหลังก่อเหตุหลานชายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาเมื่อเวลา 10.30 น. ตนจึงหากับข้าวให้กิน และออกไปธุระข้างนอก จนประมาณบ่าย 2 ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปิดล้อมบ้าน และหลานชายได้ถูกวิสามัญจนเสียชีวิต ตนเสียใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน นายสุชัจจ์ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เนื่องจากได้ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ พร้อมส่งตัวให้ ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ พานนท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พรหมบุรี ก่อนที่จะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จ.สมุทรสาคร นำตัวไปดำเนินคดีต่อไป.