สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยุโรป (อีซีดีซี) ออกแถลงการณ์ ยกระดับเตือนภัย ความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ จาก “ต่ำ” เป็น “ปานกลาง” ในภูมิภาค
แม้อีซีดีซีมองว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคฝีดาษลิงในทวีปยุโรป “ยังอยู่ในระดับต่ำ” แต่ควรมีมาตรการคัดกรองและควบคุมโรคที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการแพร่ระบาด ข้ามพรมแดนออกจากทวีปแอฟริกา
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง จากกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 มีความรุนแรงระดับสูงสุดในบรรดาทุกสายพันธุ์ และมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10% แต่มีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำ ส่วนกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ 2 หรือเคลด 2 แม้มีความรุนแรงของโรคต่ำกว่าเคลด 1 แต่มีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำถึงปานกลาง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอีซีดีซีเกิดขึ้น หลังกระทรวงสาธารณสุขสวีเดนยืนยัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง จากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 ซึ่งมีความรุนแรงของโรคในระดับสูงสุด และเป็นครั้งแรกที่มีการพบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเคลด 1 นอกทวีปแอฟริกา ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีประวัติเดินทางเยือนประเทศหนึ่งในแอฟริกา ซึ่งกำลังมีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง จากเชื้อสายพันธุ์เคลด 1
อนึ่ง องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ต่อจากการประกาศระหว่างปี 2565-2566 ซึ่งตอนนั้นพบผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 90,000 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วราว 130 ราย
ปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงระลอกใหม่ โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 15,664 คน นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 548 ราย.
เครดิตภาพ : AFP