เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภา เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า ถึงเวลานี้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามเดิม โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นตรงกัน ตั้งแต่การพูดคุยและการแถลงข่าวร่วมกัน ได้มีการแสดงท่าทีทางการเมืองออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
เมื่อถามว่าโดยมารยาททางการเมืองแล้ว ควรจะเป็นโควตาเดิมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่มีโควตาเดิม เมื่อรัฐบาลเก่าสิ้นสุดลงแล้ว รัฐบาลใหม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำหรือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะได้มาพูดคุยและหารือกันกับหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่สนับสนุน”
เมื่อถามย้ำว่าเท่ากับเป็นการล้างบางใหม่เลยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย เพราะส่วนตัวยังไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะคิดอย่างไร ก็ต้องรอท่านพิจารณา
เมื่อถามอีกว่า ยังคงเป็นเงื่อนไขต่อไปหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าทางพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันในเก้าอี้สัดส่วนเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ว่าเป็นความเห็นของใคร แต่โดยมารยาทแล้ว เราก็ต้องพูดคุยตามปกติ คือการเลือกผู้นำคนใหม่ที่คิดว่าทุกฝ่ายยอมรับได้ และทุกฝ่ายยอมรับว่ามีศักยภาพที่จะทำงาน ส่วนรายละเอียดต่อไปคงต้องไปทีละขั้น วันนี้เราเสนอชื่อ เราก็ยังไม่แน่ใจว่าสภาจะตัดสินใจอย่างไร การที่จะพูดอะไรไปก่อนที่สภาตัดสินใจ ดูว่าจะไม่มีมารยาททางการเมือง เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และหารือกันว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีความเหมาะสมว่าจะเป็นอย่างไรอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มาจากคนที่นามสกุลชินวัตร หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าจะเปลี่ยนผ่านประเทศไปได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าจะเป็นคนใหม่หรือนามสกุลชินวัตรหรือไม่ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นไปในด้านลบ ที่ผ่านมาตระกูลชินวัตร ได้ทำงานให้กับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ได้ใช้ศักยภาพและบุคลากรของตระกูลสนับสนุน ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องของรายบุคคล นายกรัฐมนตรีแต่ละคนต่างก็มีลักษณะพิเศษ มีคุณลักษณะของแต่ละคน วันนี้ น.ส.แพทองธาร เสนอตัว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสาธารณชนจะตัดสิน
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าวัยวุฒิของ น.ส.แพทองธาร จะทำให้เกิดปัญหาการนำทัพของรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ส่วนตัวคิดว่านักการเมืองทุกวันนี้ แต่ละพรรคการเมืองมีวุฒิภาวะทางการเมือง ทุกอย่างที่ น.ส.แพทองธาร มานั้น มาตามกระบวนการทางการเมือง อายุหรือวัยไม่ได้เป็นปัญหา วันนี้ถ้าไปดูผู้นำโลก วันนี้เทรนด์ของโลกและเทรนด์ประเทศไทย เราไม่ได้ดูว่าผู้นำจะอยู่ที่อายุหรือวัย แต่อยู่ที่ศักยภาพความสามารถ การเข้าถึงประชาชน และการยอมรับของประชาชนเป็นหลัก.