เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จำนวน สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา อยู่ที่ 493 คน สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลยังมีจำนวน 11 พรรคการเมือง รวมเสียง สส.เป็นจำนวน 314 เสียง ด้านพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ประกอบด้วย 8 พรรคการเมือง รวมเสียง สส. 179 เสียง ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะต้องได้เสียงสนับสนุนจาก สส.เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา ซึ่งหมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงจาก สส.อย่างน้อย 248 เสียง

ทั้งนี้ต้องจับตาว่าในการโหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น เสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลจะมาครบหรือไม่ และจะมีเสียงเติมจาก สส.ซีกฝ่ายค้านร่วมสนับสนุนด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คะแนนโหวตทั้งหมดจะถูกนำมาใช้คำนวณจัดสรรโควตารัฐมนตรี ซึ่งเดิมพรรคร่วมรัฐบาลยังคงโควตาเดิมไว้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาลหายไป ก็จะกลายเป็นเงื่อนไขในการปรับเปลี่ยนโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีได้เช่นกัน