สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาราจักร เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า รัฐบาลปักกิ่งส่งเอกสารไปยังสภาเขตทาวเวอร์ แฮมเลตส์ เพื่อขอการอนุมัติสร้างสถานเอกอัครราชทูตจีน ใกล้กับทาวเวอร์ออฟลอนดอน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเกือบสองสัปดาห์ หลังรัฐบาลชุดใหม่ของสหราชอาณาจักร เริ่มทำงานเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เอกสารแผนการสร้างสถานเอกอัครราชทูตจีนแห่งใหม่ ระบุว่า การตัดสินใจของสภาเขตทาวเวอร์ แฮมเลตส์ ในการปฏิเสธข้อเสนอข้างต้น เมื่อเดือน ธ.ค. 2565 ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง และผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยนั้น “ไม่มีสาระ” และ “ไม่มีพื้นฐานในนโยบายการวางแผน”
กระนั้น จีนพลาดกำหนดเวลาในการอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว เมื่อปี 2566 เพราะความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลปักกิ่ง กับรัฐบาลลอนดอนชุดก่อนหน้า เนื่องจากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจารกรรมทางไซเบอร์ และสิทธิมนุษยชนของจีน ซึ่งทางการจีนระบุว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร “กล่าวหาเกินจริง” เกี่ยวกับสายลับ และการโจมตีทางไซเบอร์จากจีน
แม้รัฐบาลลอนดอนชุดปัจจุบัน ซึ่งนำโดยพรรคแรงงานของ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป (อียู) หลังการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกอียู หรือ “เบร็กซิต” แต่พวกเขากล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับจีน เพื่อทำความเข้าใจ และตอบสนองต่อความท้าทายและโอกาสที่รัฐบาลปักกิ่งมอบให้
อนึ่ง จีนประกาศแผนการสร้างสถานเอกอัครราชทูตแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 เพื่อให้สอดคล้องกับอิทธิพลทางการทูตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมันจะกลายเป็นสถานเอกอัครราชทูตจีน “ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป” และมีขนาดใหญ่กว่าสถานเอกอัครราชทูตจีน ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ “เกือบสองเท่า”
อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าว ทำให้นักการเมือง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบางคนของสหราชอาณาจักร เตือนว่าสถานเอกอัครราชทูตที่ใหญ่ขึ้น และนักการทูตชาวจีนที่มากขึ้น อาจทำให้การเพิ่มจำนวนสายลับในประเทศ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเช่นกัน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES