อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หมอหมู วีระศักดิ์ ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับ “พิษสารหนู หรือ อาร์เซนิก” ที่เมื่อสารหนูเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้การสร้างและการสะสมพลังงานของเซลล์เกิดความเสียหาย จึงทำให้เกิดความผิดปกติของระบบในร่างกาย ดังนั้นควรหยุดการสัมผัสของสารหนู
โดยหมอหมู ระบุข้อความว่า “สารหนู (Arsenic, As หรือ อาร์เซนิก) เป็นธาตุชนิดหนึ่งที่พบการเกิดพิษได้แพร่หลายในโลก โดยพบว่า สารหนูชนิดอนินทรีย์เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดพิษมากที่สุด การกินและการสูดดมเป็นทางหลักของการรับสารเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากความตั้งใจ อุบัติเหตุ หรือจากการปนเปื้อนในแหล่งน้ำและอื่นๆ เมื่อสารหนูเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้การสร้างและการสะสมพลังงานของเซลล์เกิดความเสียหาย นำมาซึ่งความผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกาย”
สำหรับอาการของผู้ที่ได้รับพิษสารหนูแบบเฉียบพลัน มีดังต่อไปนี้
1. ระบบทางเดินอาหาร • อาการเกิดเร็วใน 30-60 นาที และจะดีขึ้นใน 24-48 ชั่วโมง
• คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียเป็นน้ำ หรือมีเลือดปน
• เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้เนื่องจากภาวะขาดน้ำรุนแรง เลือดไหลเวียนลดลง และตามมาด้วยระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว
2. ระบบหัวใจและหลอดเลือด
• 30 นาทีหลังได้รับสารหนู พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติได้ และคงอยู่ได้นานถึง 8 สัปดาห์
• ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ช็อก และอาจเสียชีวิตได้
• ภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic Acidosis)
อย่างไรก็ตาม ในการรักษาจะให้ยาไดเมอร์คาพรอล (Dimercaprol) และ ยาซัคไซเมอร์ (Succimer) ช่วยเพิ่มการขับสารหนูออกจากร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก นั่นคือ การหยุดการสัมผัสสารหนูเพิ่มเติมเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์