สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า หน่วยยามชายฝั่งของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งกำลังขนถ่ายน้ำมันออกจากเรือที่อับปาง ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่รัฐบาลมะนิลา ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์ จึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ เรือบรรทุกน้ำมัน “เอ็มที เทอร์รา โนวา” ซึ่งมีถังน้ำมันเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม 8 ถัง อับปางท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ในอ่าวมะนิลา เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้มีลูกเรือเสียชีวิต 1 ราย

ก่อนเริ่มปฏิบัติการสูบน้ำมัน ทางการฟิลิปปินส์ใช้เวลา 3 สัปดาห์ ในการควบคุมคราบน้ำมันที่รั่วไหล และติดตั้งอุปกรณ์เพื่อสูบน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากเรือ โดยหน่วยยามชายฝั่งเตือนว่า หากน้ำมันทั้งหมดในเรือรั่วไหลลงสู่อ่าวมะนิลา มันจะกลายเป็น “ภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อม” และเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ

แม้หน่วยยามฝั่งระบุในภายหลังว่า คราบน้ำมันที่พบเป็นเพียง “กลุ่มเล็ก” แต่เทศบาลก็กำหนด “เขตห้ามจับปลา” ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวประมงหลายหมื่นคนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวมะนิลา

ด้านสำนักงานประมงและทรัพยากรทางน้ำ (บีเอฟเออาร์) ของฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้ประชาชนมีความระมัดระวัง เมื่อบริโภคปลาที่มาจากพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ เนื่องจากความเสี่ยงของการปนเปื้อนปิโตรเคมี

อนึ่ง ภัยพิบัติน้ำมันรั่วครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว จากการที่เรือบรรทุกเชื้อเพลิงสำหรับอุตสาหกรรมราว 800,000 ลิตร อับปางนอกชายฝั่งเกาะมินโดโร ทางตอนกลางของประเทศ และคราบน้ำมันรั่วไหลออกไปเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร.

เครดิตภาพ : AFP