เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของ หมอเก่ง เจ้าหน้าที่ รพ.สต.แห่งหนึ่งในอ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของหมอเก่ง นาน 3 วัน ก่อนจะไปเจอตัวอยู่กับหนุ่มคนสนิทที่ จ.นนทบุรี ล่าสุดได้รายงานว่าไปพบตัวอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นที่บ้านเจอเพียงญาติไม่กี่คนกับเก้าอี้โยกที่ว่างเปล่าของพ่อหมอเก่ง เนื่องจากครอบครัวเดินทางโดยรถตู้ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อติดตามอาการของหมอเก่ง หลังทราบว่าหมอเก่งมีอาการหนัก เข้าห้องไอซียู
จากการสอบถามญาติที่พยายามโทรศัพท์หาหมอเก่งตลอดทั้งวัน หลังทราบว่าหมอเก่งไม่ได้อยู่ที่จ.นนทบุรี หลังหมอเก่งส่งข้อความ “ขอให้เอาศพกลับบ้าน เผาด้วยกันทั้งสองคนนะ ขอโทษด้วย” ซึ่งจากข้อความดังกล่าวทำให้ครอบครัวตลอดจนญาติและเพื่อนร่วมงานเกิดวามวิตกกังวลเป็นอย่างมาก กระทั่งรับแจ้งว่า หมอเก่ง มีอาการอาเจียน ปวดท้องขั้นรุนแรง ถึงขั้นหมดสติ เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พยายามทำซีพีอาร์ถึง 6 ครั้ง โดยยังมีอาการวิกฤติอยู่ในห้องไอซียู ครอบครัวจึงรีบเดินทางโดยรถตู้รีบไปเยี่ยมดูอาหารด้วยความเป็นห่วง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางต่อไปยัง รพ.สต.ที่ทำงานของหมอเก่ง บรรยากาศ ที่โต๊ะทำงานของหมอเก่ง ค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ไม่กี่คน โดยผู้อำนวยการ รพ.สต. พร้อมด้วยประชาชนที่เคยมาใช้บริการกับหมอเก่งยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า หมอเก่ง เป็นคนดี เป็นที่รักของประชาชนคน ตลอดจนเพื่อนร่วมงานทุกคน ได้ยินข่าวรู้สึกใจหายอยากให้หมอเก่งกลับมาอย่างปลอดภัย
กระทั่งช่วงบ่ายญาติสามารถติดต่อนายยู เพื่อนชายคนสนิทของหมอเก่งได้ หลังจากพยายามติดต่อไปหลายครั้ง จากการพยายามสอบถามว่าทำไมไม่โทรกลับ นายยูบอกว่าโทรกลับไม่ได้ พร้อมบอกเล่าถึงสาเหตุที่หมอเก่งมีอาการหนัก โดยย้อนกลับไปเมื่อเวลา 21.30 น คืนวันที่ 12 ส.ค.67 หมอเก่งกับนายยูหลังเข้าพักยังที่พักแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งคู่ได้สั่งอาหารมารับประทานกันมีส้มตำ ซุปหน่อไม้ แกงเห็ด หลังทานเสร็จหมอเก่งมีอาการอาเจียน ปวดท้องขั้นรุนแรง นายยูจึงโทรเรียก 1669 เข้าทำการช่วยเหลือ หลังนำหมอเก่งขึ้นรถและหมดสติไป เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ณ ขณะนั้นอยู่ในอาการขั้นวิกฤติ ทีมแพทย์พยายามทำซีพีอาร์ถึง 6 ครั้ง ในห้องไอซียู
โดยล่าสุดหลานสาวได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า หมอเก่ง ได้เสียชีวิตแล้ว