สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่านายวยาเชสลาฟ กลาดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งอยู่ติดกับภูมิภาคเคิร์สก์ ที่กำลังเป็นสมรภูมิจากปฏิบัติการทางทหารข้ามพรมแดนของกองทัพยูเครน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์สู้รบเริ่มขยายวงออกจากภูมิภาคเคิร์สก์


ขณะเดียวกัน กลาดคอฟกล่าวด้วยว่า กำลังประสานงานกับหน่วยงานกลางในกรุงมอสโก เพื่อให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในระดับรัฐด้วย ซึ่งเป็นการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นภูมิภาคที่สอง ต่อจากภูมิภาคเคิร์สก์


ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงาน ว่าระบบป้องกันทางอากาศสกัดการโจมตีของอากาศยานไร้คนขับ 117 ลำ ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด และภูมิภาคทางตะวันตกของประเทศยังคงเป็นเป้าหมายของการโจมตี


ขณะที่นายจอร์จีย์ ทิกฮีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน ที่เป็นการรุกข้ามพรมแดนไปยังพื้นที่ทางตะวันตกของรัสเซีย ว่า “เป็นความชอบธรรมอย่างแท้จริง” ของยูเครน ที่จะดำเนินการดังกล่าว

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ยืนยันว่า รัฐบาลเคียฟ “ไม่มีความสนใจ” ที่จะ “ยึดครอง” แผ่นดินของรัสเซีย และปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดจะยุติทันที หากรัฐบาลมอสโก “เห็นชอบการฟื้นฟูสันติภาพ” พร้อมทั้งเน้นว่า ทหารยูเครนที่ร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ “มีจำนวนมากกว่าที่รัสเซียคาดการณ์ไว้”


ส่วนพล.อ.โอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครน กล่าวว่า ตอนนี้สามารถควบคุมดินแดนของรัสเซียได้อย่างน้อย 1,000 ตารางกิโลเมตร และยึดครองหมู่บ้านในภูมิภาคเคิร์สก์ได้แล้วอย่างน้อย 74 แห่ง ซึ่งถือว่า มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565.

เครดิตภาพ : AFP