เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายสมชาย แสวงการ ตัวแทนอดีต 40 สว. ให้สัมภาษณ์หลังศาลวินิจฉัยมีผลให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญว่า ตนขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ และขอยืนยันว่า ต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรม และขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้ขาดว่า นายเศรษฐา พ้นจากความเป็นนายกฯ ด้วยความไม่ซื่อสัตย์สุจริต และผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในการแต่งตั้งนายพิชิตซึ่งเป็นบุคคลที่มีปัญหาอยู่แล้วขึ้นเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิตมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องนี้นายเศรษฐาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้เรื่องในการแต่งตั้งนายพิชิต

นายสมชาย กล่าวว่า นายเศรษฐา ซึ่งในฐานะผู้บริหารประเทศจะต้องรู้ในเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยที่นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกฯ นั้น เราในฐานะตัวแทนอดีต สว. 40 คน ขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การที่เราทำแบบนี้ก็เพราะทำตามหน้าที่อดีต สว. ที่พบเห็นถึงปัญหาในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงบางอย่าง ซึ่งตอนนี้ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว ส่วนหลังจากนี้ก็คงต้องเป็นเรื่องของการเมืองที่ต้องว่ากันต่อไป

เมื่อถามต่อว่าการยื่นตรวจสอบครั้งนี้มีใบคำสั่งมาจากกลุ่มเก่าหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มี เป็นการทำหน้าที่ของเราเอง ไม่มีใบสั่งจากใครทั้งสิ้น

เมื่อถามอีกว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองหรือไม่ เมื่อไม่มีนายกฯ ในตอนนี้ นายสมชาย กล่าวว่า “ไม่เกิดครับ บ้านเมืองก็เดินหน้าต่อได้ครับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็สามารถจัดกันใหม่ได้ นายกรัฐมนตรีก็แค่พ้นไป ครม.ก็แค่พ้นไป เชื่อว่า สว.ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลตามบัญชีแคนดิเดตขึ้นมาใหม่ได้”

เมื่อถามต่อว่าการเกิดสถานการณ์ขึ้นแบบนี้ จะกระทบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แบบที่ประชาชนหลายคนกังวลหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนยังไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องนโยบายใหม่ของรัฐบาล

เมื่อถามอีกว่าใครเหมาะที่จะเป็นนายก ฯ คนต่อไป  นายสมชาย กล่าวว่า คนที่อยู่ในบัญชีกันเท่านั้น เราไม่มีสิทธิ์ไปเลือกอะไร

เมื่อถามอีกว่า การเลือกนายกฯ หลังจากนี้จะวุ่นวายหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่วุ่นวาย ตนเชื่อว่าการเมืองไทย ก็ดำเนินการต่อไปได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล

เมื่อถามต่อว่าบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่นั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ที่จะร่วมรัฐบาลเป็นพรรคเดิม หรือจะสลับค่อยไปว่ากัน เราเป็นอดีต สว. และตอนนี้เป็นบุคคลพลเรือนทั่วไปแล้ว ไม่สามารถจะแสดงความคิดเห็นใดๆ ได้

เมื่อถามต่อว่ากรณีเหตุการณ์นี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับนายกฯ คนต่อไปไม่ให้เอื้ออำนวยผลประโยชน์ต่อนักการเมืองคนไหนใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ใช่ และจะต้องเป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้อง คดีเหล่านี้เป็นคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยที่ชัดเจนถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะในเรื่องของการยกระดับ ที่ต้องมากกว่าผู้สมัคร สว.เสียด้วยซ้ำ

“ถ้าไปดูในมาตรา 160 และ 170 ต้องมีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ จะต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม หรือประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตนคิดว่าในทางการเมืองมาถึงจุดที่มันไม่ควรเป็นเรื่องของการตอบแทนที่จะให้ใครเป็นรัฐมนตรี ต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ชัดเจน และต้องตรงตามมาตรฐานจริยธรรม เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามอีกว่าไม่ได้รู้สึกไม่ดี ใช่หรือไม่ ที่มีผลกระทบต่อการเดินหน้าของประเทศไทย นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเลย รู้สึกถูกด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นการทำหน้าที่ เพราะมีคนไม่ทำหน้าที่ เราเลยทำหน้าที่

เมื่อถามเพิ่มเติมว่า โดยปกติ สว. ไม่มีสิทธิในการเลือกนายกฯ แต่จะมี สส.เท่านั้น ที่สามารถลงคะแนนได้ มีความกังวลหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีเลยเพราะก่อนหน้านี้ สว. ก็ไม่ได้มีผลในการเลือกนายกฯ อยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่ากังวลหรือไม่ หากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง นายสมชาย กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้และขออนุญาตไม่ตอบ