เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) โพสต์ภาพจำลองสถานการณ์ของชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายจากข่าวดังในปี 2562 เนื่องจากมีการพบศพของเขาที่ด้านหลังตู้แช่สินค้า หลังจากที่เขาหายตัวไปเป็นเวลานานถึง 10 ปี ทำให้เรื่องราวของเขากลับมาอยู่ในความสนใจของชาวเน็ตอีกครั้ง
ย้อนกลับไปในปี 2562 กลุ่มคนงานที่กำลังรื้อถอนชั้นวางและตู้แช่สินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ซึ่งปิดกิจการไปแล้วก่อนหน้านั้นถึง 3 ปี ในรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบศพติดอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ระหว่างตู้แช่และผนังร้าน
หลังจากที่มีการตรวจสอบดีเอ็นเอ ทางการก็ระบุว่าศพดังกล่าวคือ แลร์รี อีไล มูริโย-มอนคาดา ซึ่งเป็นบุคคลที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2552 ตำรวจเชื่อว่าชายหนุ่มวัย 25 ปีคนนี้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เขาติดอยู่ในซอกระหว่างผนังร้านกับตู้แช่สินค้าหลังหนึ่ง
ในคลิปที่เป็นภาพจำลอง แสดงให้เห็นภาพของชายหนุ่มที่ล้มลงไปในลักษณะเอาศีรษะลงพื้น แต่เนื่องจากพื้นที่นั้นแคบมาก ทำให้ร่างของเขาอยู่ในแนวดิ่ง ขาชี้ฟ้า คล้ายการหกสูง และติดค้างอยู่แบบนั้นตลอดระยะเวลาที่ร้านดังกล่าวเปิดให้บริการตลอด 7 ปี โดยที่ไม่มีใครรู้เห็นหรือได้ยินเสียงร้องของเขาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งร่างของเขาเหลือแต่โครงกระดูก
พ่อแม่ของแลร์รีเสียใจมาก ที่ลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตอย่างคาดไม่ถึง และน่าเศร้า วันสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นชายหนุ่ม คือวันเทศกาลขอบคุณพระเจ้าของปี 2552 ญาติของเขาแจ้งความว่าเขาหายตัวไปหลังจากนั้น 1 วัน โดยระบุว่า เขาออกจากบ้านของพ่อแม่ของเขาในสภาพเท้าเปล่า และมีอาการคล้ายจิตหลอน ท่ามกลางสภาพอากาศที่กำลังมีหิมะตกหนัก เสื้อผ้าที่พบพร้อมกับศพ มีลักษณะตรงกับเสื้อผ้าที่เขาสวมในวันที่หายตัวไป
การพบศพแลร์รี หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปนานถึง 10 ปี ทำให้หลายคนตื่นตกใจมาก ที่ไม่มีใครรู้เห็นว่ากำลังมีคนเสียชีวิตอยู่ภายในร้านที่เต็มไปด้วยผู้คนในเวลาให้บริการ โดยเฉพาะเมื่อสันนิษฐานว่า เขาน่าจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทำไมจึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเขาเลย
ต่อมา ทางตำรวจสืบสวนได้อธิบายว่า มีความเป็นไปได้ที่เสียงร้องของแลร์รีจะโดนกลบด้วยเสียงที่ดังมากของมอเตอร์ตู้แช่สินค้าที่มีความสูงถึง 12 ฟุต (ราว 3.6 เมตร) ทำให้เขาเสียชีวิตไปโดยไม่มีใครทราบจนกระทั่งพบศพ นอกจากนี้ ตำรวจก็ไม่พบร่องรอยการโดนทำร้ายร่างกาย จึงสรุปว่าการเสียชีวิตของเขา เป็นเพียงอุบัติเหตุที่น่าสลดใจ
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : X / @zackdfilms1, Council Bluffs Police Department