นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 67 (เม.ย.-มิ.ย. 67) มีกำไรสุทธิ 1,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 102 ล้านบาท คิดเป็น 11% ถือว่าสูงสุด (นิวไฮ) ของไตรมาสที่ 2 โดยมีรายได้จากธุรกิจหลัก 4,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท หรือ 3% ประกอบด้วย รายได้จากธุรกิจทางพิเศษ 2,114 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจระบบรางหรือรถไฟฟ้า MRT 1,603 ล้านบาท ส่วนธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ มีรายได้ 306 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10%

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 67 โดยแผนกำหนดแล้วเสร็จสำหรับส่วนตะวันออก จากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในการให้บริการเดินรถ ภายใน 3 ปี 6 เดือน ทั้งนี้ BEM มั่นใจว่าจะเปิดให้บริการในส่วนนี้ได้ก่อนกำหนดแน่นอน และส่วนตะวันตก จากบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ กำหนดแล้วเสร็จภายใน 6 ปี ซึ่งการได้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งนี้ จะเป็นการเติบโตใหม่ (New S-Curve) ช่วยเสริมให้ธุรกิจของ BEM เติบโตได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน รวมทั้งช่วยหนุนปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด คาดว่าปีนี้กำไรบริษัทฯ ทะลุเกินเป้า

นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า BEM จะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจอย่างเข้มแข็ง ด้วยความพร้อม และความมุ่งมั่นในการส่งมอบการบริการคมนาคมขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรม และยั่งยืน.