สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 สค. ว่า ทีมงานหาเสียงของนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ และว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 5 พ.ย. นี้ ออกแถลงการณ์ว่า ฝ่ายความปลอดภัยและกฎหมายของทีมงานหาเสียง เคยได้รับแจ้งจากสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าระบบคอมพิวเตอร์ภายใน กำลังตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ “จากต่างประเทศ”


หลังจากนั้น ทีมงานด้านเทคโนโลยีจึงยกระดับการป้องกัน และจนถึงตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ที่เป็นผลจากความพยายามดังกล่าว


ทั้งนี้ ทีมงานหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และตัวแทนพรรครีพับลิกัน ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าระบบคอมพิวเตอร์สำหรับแคมเปญหาเสียง ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ “โดยกองกำลังต่างชาติ” ที่มีเจตนาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสร้างความวุ่นวายให้กับกระบวนการถ่ายโอนอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย


ทีมงานของทรัมป์อ้างข้อมูลจากไมโครซอฟท์ ว่า “แฮกเกอร์ของอิหร่าน” ส่งฟิชชิงอีเมล หรืออีเมลหลอกลวง ไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน ในแคมเปญหาเสียง เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และทีมงานของนายเจ.ดี. แวนซ์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน ในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์แบบเดียวกัน


ขณะที่นายเวดันต์ ปาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า “ความพยายามครั้งล่าสุด” ในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ “ไม่ใช่เรื่องใหม่” สำหรับอิหร่าน ซึ่งพยายามบ่อนทำลายกลไกประชาธิปไตยของสหรัฐ “อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปีแล้ว” และยืนยันว่า มี “เครื่องมือ” เพื่อใช้จัดการกับรัฐบาลเตหะรานในเรื่องนี้ และไม่ลังเลที่จะใช้สิ่งเหล่านั้น

ด้านนายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังจับตาและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 แฮกเกอร์โจมตีระบบอีเมลของคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครต ซึ่งส่งนางฮิลลารี คลินตัน เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และหลายฝ่ายกล่าวหาว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้อง และทรัมป์ “ส่งเสริม” ให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES