เมื่อวันที่ 13 ส.ค. นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย เวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต๊อค จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับมูลนิธิชัยพัฒนา มีนายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นผู้ลงนาม เพื่อร่วมกันเดินหน้าโครงการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนขยายผลโครงการอันเนื่องจากมาจากพระราชดำริ รวมถึงสนับสนุนการดำเนินการใดๆ อันเป็นสาธารณประโยชน์ เพื่อส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของสังคมให้ดียิ่งขึ้น

นายวรเนติ กล่าวต่อว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์ และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระราชทานพระราชานุมัติให้มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ บริษัท ไทย เวียตเจ็ทฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือกิจกรรมเพื่อสังคม  โดยกิจกรรมแรกของความร่วมมือครั้งนี้คือ การปลูกป่าชายเลน และปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด เพื่อสนับสนุนการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางธรรมชาติตามแนวพระราชดำริ ในพื้นที่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี

นอกจากนี้จะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลิตผลของชุมชน ภายใต้การดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา มาจำหน่ายบนเครื่องบินในเส้นทางระหว่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 4 ปี 67 (ต.ค.-ธ.ค.67) ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชนแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ของไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติด้วย ปัจจุบันสายการบินไทยเวียตเจ็ทมีผู้โดยสารจากหลากหลายประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และไต้หวัน

นายวรเนติ กล่าวอีกว่า สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน รวมถึงการลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติการบินมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปลูกป่าชายเลน ตั้งเป้าหมายว่าจะปลูกให้ครบ 5 แสนต้นภายใน 5 ปีนี้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 2.35 แสนตัน และจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ตั้งเป้าปีละ 1% ภายในปี 69 และ 5% ในปี 73 จะช่วยลดการปล่อยก๊าซฯ ได้ 1.53 แสนตัน ทั้งนี้ปัจจุบันสายการบินไทยเวียตเจ็ทถือเป็นอันดับ 1 ของสายการบินในไทยที่ทำกิจกรรมในเชิงสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

ด้านนายสุเมธ กล่าวว่า ทางมูลนิธิฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เพื่อดำเนินกิจกรรม และโครงการพัฒนาต่างๆ วิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันของเรา คือเป้าหมายในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือนี้จะสามารถร่วมกันบูรณาการงานพัฒนาสังคม ควบคู่กับแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างมั่งคง และยั่งยืนต่อไป.