นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 13-18 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสทางการค้า โดยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 88 ของไทยในโลก และอันดับที่ 2 ของไทยในกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย มีประชากรกว่า 190 ล้านคน และมีมูลค่าจีดีพี ต่อหัวเป็นอันดับ 2 ในประเทศกลุ่มเครือรัฐเอกราชรองจากรัสเซีย มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต

นอกจากนี้ คาซัคสถานยังมีทรัพยากรที่สำคัญจำนวนมาก เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติและยูเรเนียมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และมีบทบาทในเวทีการเมืองระหว่างประเทศโดยเป็นประเทศมุสลิมสายกลางโดยการส่งออกน้ำมันเป็นรายได้หลักของประเทศที่มีอิทธิพลและมีบทบาทสำคัญในองค์การความร่วมมืออิสลาม รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปยังอีก 4 ประเทศ ได้แก่ อุซเบกิสถาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน  

“การเดินทางไปครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบาย “รักษาตลาดเดิม เสริมตลาดใหม่ โดยสามารถที่จะใช้เป็นประตูการค้าเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียกลางและประเทศที่มีนามสกุลสถาน โดยรอบได้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และที่ผ่านมา สินค้าไทยยังเข้าสู่ตลาดได้น้อย ส่วนใหญ่ส่งออกผ่านรัสเซียและอินเดีย หากส่งออกตรงได้ ก็จะเพิ่มมูลค่าการค้าได้มาก”

สำหรับการเดินทางไปครั้งนี้ นายภูมิธรรม มีกำหนดพบปะกับนายออลจัส เบคเตนอฟ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อหารือถึงความร่วมมือในการขยายการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัน และมีกำหนดหารือกับ กงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน และ รอ.ชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัสตานา เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐคาซัคสถาน 

นอกจากนี้ จะหารือกับผู้บริหาร ศูนย์กลางโจิสติกส์ของคาซัคสถาน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับเส้นทางการขนส่งสินค้าจากไทยสู่คาซัคสถาน เพื่อผลักดันให้สินค้าไทยเข้าสู่คาซัคสถานมากขึ้น ตลอดจนมอบประกาศนีบัตร ไทย ซีเล็กท์ ให้แก่ร้านอาหารไทย บางกอก ไทย คาเฟ่ ณ เมืองอัลมาตี สาธารณรัฐคาซัคสถาน และเยี่ยมชมร้าน พัทยา สปา ในฐานะร้านต้นแบบ ไทยซีเล็กท์ ในคาซัคสถาน ที่เป็นโชว์รูม บริการ และซอฟต์พาวเวอร์ไทย รวมทั้งจะใช้โอกาสนี้สำรวจตลาดการค้าสินค้า เพื่อดูว่าสินค้าอะไรที่มีโอกาสในการส่งออกไปขาย ก็จะได้จัดทำแผนผลักดันต่อไป