เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมแกนนำพรรคร่วมว่า เป็นการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยกันอยู่แล้วทุกเดือน เดือนละครั้งถึงสองครั้ง และในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค. 2567) ตนจะเดินทางไปต่างประเทศ จึงเรียกประชุมก่อน ไม่ได้มีปัญหาพิเศษอะไร ส่วนครั้งนี้ไม่ได้ประชุมเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แต่มีการคุยเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล จึงมาถามพรรคร่วมรัฐบาลต่าง ๆ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร โดยพ่วงมาอีก 2 เรื่องใหญ่คือ 1.การเปลี่ยนแปลงรองประธานสภาคนที่หนึ่ง และ 2.การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.พิษณุโลก

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องการเลือกตั้งพรรคที่ได้อันดับ 2 ในพรรคร่วมรัฐบาลคือพรรคพลังประชารัฐ อันดับ 3 คือพรรคเพื่อไทย ที่ห่างกันประมาณ 1,000 คะแนน ที่ประชุมเห็นว่า ให้พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย ตกลงกัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะส่งพรรคเดียวทั้งนี้ ปกติพรรคหลักจะเป็นประธานสภา และรองประธานสภาคนที่ 1 พรรคอันดับ 2 เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 แต่การเลือกตั้งครั้งนั้น เป็นลักษณะพิเศษ ที่ขณะนั้นพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลแล้วตกลงกันไม่ได้จึงต้องให้พรรคประชาชาติที่เป็นคนกลางนั่งตำแหน่งประธานสภา ซึ่งการเลือกครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนการจัดตั้งรัฐบาล

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมจึงหารือกันและได้ถามพรรคภูมิใจไทยว่ามีความเห็นอย่างไร ทางพรรคภูมิใจไทยจึงบอกว่าอยากขอ 1 ที่นั่ง แต่จะเป็นรอง 1 รอง 2 ก็ไม่ขัดข้อง ส่วนพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้คุยกันในกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมจึงให้ทั้ง 2 พรรคคุยกันและสรุปให้เสร็จก่อนวันที่ 14 ส.ค. 2567 จะนำเข้าสภา

เมื่อถามเพิ่มเติมว่าจะเป็นการฮั้วกันหรือไม่ที่ทางรัฐบาลคุยกันแล้วจะส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมพรรคเดียว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่การฮั้วเพราะว่า ดูว่าใครมีโอกาสมากกว่า พรรคอื่นก็รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าได้อยู่แล้ว จึงให้พรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ไปคุยกันเป็นการจัดการปกติตามการเลือกตั้ง