ในปัจจุบันมีข้อมูลบ่งบอกว่า กลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์นั้นมีสาเหตุหลายประการ เช่น การกินอาหารที่มีกลิ่นแรง, โรคเหงือก, การลดน้ำหนักแบบเร่งรัด, การสูบบุหรี่ และปัญหาสุขภาพบางอย่าง
นอกจากนี้ ยังมีนิสัยอย่างหนึ่งที่หลายคนทำเป็นประจำในตอนเช้าที่กลายเป็นสาเหตุทำให้มีกลิ่นปากไม่สะอาด
ผู้ใช้ “ติ๊กต็อก” คนหนึ่งในชื่อ “josezunigaimprovement” ได้โพสต์คลิปให้คำแนะนำด้านสุขภาพช่องปากเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจอย่างมากด้วยยอดเข้าชมไม่ต่ำกว่า 134,000 ครั้ง
เขาอธิบายในคลิปว่าการแปรงฟันทันทีหลังรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ฟันของเราเกิดความเสียหาย เพราะเมื่อเรารับประทานอาหาร จะเกิดกรดในช่องปาก ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อให้มันสลายตัวไป
ถ้าหากเราแปรงฟันทันทีหลังรับประทานอาหาร ฟันและเหงือกของคุณจะเสียหายได้ง่ายขึ้นเพราะยังมีกรดในช่องปากซึ่งอาจทำให้ฟันสึกกร่อนและยังอาจทำให้เกิดเลือดออก สุดท้ายก็กลายเป็นกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์
หนุ่มติ๊กต็อกรายนี้ชี้ว่า เราควรแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารราว 30 นาที จึงจะช่วยทำให้ฟันสะอาดแบบไม่ทำลายเหงือกและฟัน แต่ถ้าไม่มีเวลารอนานขนาดนั้น เขาก็มีวิธีง่าย ๆ คือให้ใช้น้ำกลั้วปากราว 30 วินาทีแล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยให้กลิ่นปากดีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญอย่าง เอซซาร์ด โรลล์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านทันตกรรมที่วิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก็แนะนำว่าควรงดการแปรงฟันหลังจากกินอะไรก็ตามที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว, น้ำผลไม้, น้ำอัดลม หรือลูกอมรสเปรี้ยว
“เหตุผลก็คือเมื่อกรดอยู่ในปาก กรดจะไปทำลายเคลือบฟันซึ่งเป็นผิวชั้นนอกของฟัน” ผศ.โรลล์ กล่าว
สำหรับคำแนะนำจากหนุ่มติ๊กต็อกที่บอกว่า ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าแทน ถ้าหากไม่สามารถรอนานถึง 30 นาทีเพื่อแปรงฟันหลังจากรับประทานอาหารได้นั้น ก็คล้ายกับคำแนะนำจากสมาคมทันตแพทย์อเมริกันที่ระบุว่า การดื่มน้ำหรือเคี้ยวหมากฝรั่งแบบปราศจากน้ำตาลหลังจากรับประทานอาหารและก่อนแปรงฟัน นับเป็นวิธีช่วยลดกลิ่นปากที่ดีวิธีหนึ่ง
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES