นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ทุเรียนราชาผลไม้ที่จีนนำเข้าปีละหลายแสนล้านบาท โดยปี 2565-2566 ไทยกลายเป็นแชมป์ส่งออกทุเรียนอันดับ 1 ของโลก และอันดับ 1 ในจีน โดยยอดส่งออกทุเรียนทะลุ 1 แสนล้านบาท แซงหน้า มันสำปะหลัง ยางพารา ส่งผลให้หลายประเทศกระโดดเข้าแย่งตลาดส่งออกทุเรียนไปจีนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย เวียดนาม รวมถึงอินโดนีเซีย
นายอนุสรณ์ เทียนศิริฤกษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยาฯ มองว่าอนาคตทุเรียนไทยยังต้องเผชิญการแข่งขันสูง จำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพภายใต้ต้นทุนที่ต่ำลง เพื่อจะนำมาซึ่งรายได้ที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน สอดคล้องกับเป้าหมาย ขับเคลื่อน IGNITE THAILAND “จุดประกายเกษตรไทย สู่ศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารของโลก” นำไปสู่การยกระดับรายได้เกษตรกรให้เป็น 3 เท่า ภายใน 4 ปี
ดังนั้น การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินจึงน่าจะเป็นคำตอบหนึ่ง ที่จะลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพราะการใช้ปุ๋ยเป็นต้นทุนสำคัญมากกว่า 30% ของต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร จากการวิจัยในแปลงสาธิต ในจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฯลฯ พบหลังจากวิเคราะห์ดินเพื่อทราบถึงแนวทางการจัดการดินและปุ๋ยอย่างเหมาะสม ต้นทุนการใช้ปุ๋ยลดลง 20% หรือลดลงประมาณ 6% ของต้นทุนการผลิตโดยภาพรวมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ชาวสวนทุเรียนจำเป็นต้องวิเคราะห์ดินเพื่อทราบถึงแนวทางการจัดการดินและปุ๋ยที่เหมาะสม ไม่ให้มากหรือน้อยกว่าความต้องการของทุเรียน เพราะแร่ธาตุในดินล้วนส่งผลต่อปริมาณปุ๋ยที่ใช้
สำหรับการวิเคราะห์ดิน เกษตรกรต้องส่งตัวอย่างดินไปที่กลุ่มวิจัยเกษตรเคมี กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ หรือสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1-8 หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรทั่วประเทศ ขอย้ำว่า ในส่วนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆสำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว เมื่อกลุ่มวิจัยเกษตรเคมี ได้รับตัวอย่างดิน ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อวิเคราะห์ตัวอย่างดินก่อนส่งรายงานผลการวิเคราะห์มายังกลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา เพื่อประเมินและออกคำแนะนำการใช้ปุ๋ยไม่เกิน 1-3 วัน เกษตรกรสามารถนำคำแนะนำที่ได้มาใช้ในการจัดการปุ๋ยแก่พืชได้เลย หรือนำรายงานผลการวิเคราะห์ดินมาพิจารณาร่วมกับตารางคำแนะนำการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับทุเรียน โดยเกณฑ์การประเมินธาตุอาหารเพื่อนำไปพิจารณาอัตราการใช้ปุ๋ยต่อการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของทุเรียนให้เหมาะสมจะแตกต่างกันตามระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
สำหรับการใส่ปุ๋ยในทุเรียนแบ่งใส่ 4 ครั้งต่อปี คือ 1. ระยะบำรุงต้น (ช่วงตัดแต่งกิ่งหลังเก็บเกี่ยว) 2. ระยะสร้างตาดอก (ก่อนออกดอก 1-2 เดือน) 3. ระยะบำรุงผล (หลังดอกบาน 1 เดือน) และ 4. ระยะปรับปรุงคุณภาพ (ก่อนเก็บเกี่ยว 2 เดือน) นอกจากนี้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงความเป็นกรด-ด่างของดินให้มีความเหมาะสมตามความต้องการของทุเรียน
สำหรับวิธีการเก็บตัวอย่างดินในแปลงทุเรียน 1. สุ่มเก็บตัวอย่างดินจำนวน 10-20 ต้นต่อแปลง (พื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่) 2. เก็บตัวอย่างดินจาก 4 ทิศรอบต้น ห่างจากชายพุ่มเข้าไปด้านในประมาณ 50 เซนติเมตร 3. เก็บตัวอย่างดินที่ 2 ระดับความลึก คือ 1.ดินบนที่ความลึก 0-15 เซนติเมตร และ 3.ดินล่างที่ความลึก 15-30 เซนติเมตร 4. รวมตัวอย่างดินจาก 4 จุด ให้เป็นตัวอย่างดินบน 1 ตัวอย่าง และตัวอย่างดินล่าง 1 ตัวอย่าง แ5. นำตัวอย่างดินบนของแต่ละต้นมาคลุกให้เข้ากัน และแบ่งใส่ถุงประมาณ 1 กิโลกรัม พร้อมบันทึกรายละเอียดของตัวอย่าง เช่น สถานที่เก็บตัวอย่าง ระดับความลึกของดิน เป็นต้น 6. นำตัวอย่างดินล่างของแต่ละต้นมาคลุกให้เข้ากัน และแบ่งใส่ถุงประมาณ 1 กิโลกรัม พร้อมบันทึกรายละเอียดของตัวอย่าง เช่น สถานที่เก็บตัวอย่าง ระดับความลึกของดิน เป็นต้น 7. นำตัวอย่างดินส่งวิเคราะห์ตามหน่วยงานที่รับวิเคราะห์ตัวอย่าง
หากเกษตรกรต้องการปรึกษาขั้นตอนการเก็บตัวอย่างดิน หรือปรึกษาปัญหาการใช้ปุ๋ย สามารถติดต่อมาที่ กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เลขที่ 50 ลาดยาว จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2579-7514, 0-2579-4116