เมื่อวันที่ 10 ส.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อาจารย์ช้าง ธนปรรณ” ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปกล้องวงจรปิดภายในร้านตัดผม “ตามโหงวเฮ้ง อาจารย์ช้าง” เป็นภาพลูกค้าชายที่เข้ามาใช้บริการตัดผมภายในร้าน ทำร้ายร่างกายช่างตัดผมและทำลายข้าวของภายในร้าน โดยมีชายหญิงซึ่งมากับลูกค้าที่มาใช้บริการตัดผม เข้ามาห้ามปราม และขอโทษกับทางช่างตัดผม ก่อนพาขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านขับออกไป โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊กได้ระบุข้อความ ว่า “ขอความอนุเคาราะห์ช่วยแจ้งเบาะแส ช่างผมต้องเตรียมตัว ลูกค้าชกต่อยช่างผมในร้านเสริมสวย ในเมื่อทรงผมที่แม่สั่งให้ตัดไม่ถูกใจลูก แต่กลับใช้โทสะ ความโมโห มาลงเอยกับการทำร้ายร่างกายต่อยช่างผมผู้หญิง พร้อมทำอุปกรณ์เสียหายไว้ที่ร้าน ท่านใดรู้จัก กรุณาแจ้งเบาะแสมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา”
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางฐานิส สุขยิม อายุ 58 ปี หรือช่างตู๋ ช่างทำผมที่ถูกลูกค้าทำร้ายร่างกายปรากฏตามคลิป พบว่าที่เบ้าตายังบวมเล็กน้อย และมีอาการเจ็บที่สันจมูก เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงคํ่าของวันที่ 7 ส.ค. มีลูกค้าเข้ามาตัดผมในร้าน ไม่ใช่ลูกค้าประจำ เป็นชายอายุประมาณ 25 ปี มาพร้อมกับพ่อและแม่ ได้เลือกแบบทรงผมที่มีโชว์อยู่ในร้าน ซึ่งเป็นลักษณะทรงผมทรูบล็อก จากนั้นเริ่มตัดผมตามแบบที่ลูกค้าเลือก ระหว่างนั้นจะสอบถามเรื่องของความสั้นยาวของผมที่จะให้ตัดด้านข้าง ด้านบนของศีรษะ ว่าเอาสั้นขนาดไหน เบอร์อะไรตามใจลูกค้า
แต่จะมีแม่เป็นคนคอยกำชับเรื่องของการตัดผมตลอดที่ลูกชายนั่งตัดผมอยู่ ไม่ได้ขัดและแย้งเรื่องของการตัดผมอะไร จนตัดผมเสร็จ ลูกชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดผมได้หันไปต่อว่าแม่ “สั่งอยู่นั่นแหละ” จากนั้นแสดงอาการท่าทีฉุนเฉียว ใช้เท้าถีบโต๊ะกระจก ลุกขึ้นปาข้าวของในร้าน แล้วมาชกที่ใบหน้าของตน ทุกคนที่อยู่ในร้าน ลูกค้าที่กำลังตัดผม รวมถึงอาจารย์ช้างเจ้าของร้านด้วย เข้ามาช่วยกันห้ามปราม โดยทางพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุเข้ามาห้าม ซึ่งแม่ของผู้ก็เหตุ ก็พยายามขอโทษ จากนั้นเดินออกจากร้านไป
ซึ่งลูกค้ายังมีการเอะอะโวยวายและจะเข้ามาในร้านอีก แม่ที่เข้าไปห้ามปรามล้มกระแทกกับพื้น ตนเองและคนในร้านตกใจมากเนื่องจากภายในร้านมีลูกค้าและก็มีเด็กอยู่ จึงพยายามล็อกประตูและพยายามจำเลขทะเบียนรถของผู้ก่อเหตุไว้ จากนั้นจึงเดินทางไปหาหมอและเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ทางผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อกลับมาที่ร้าน จึงฝากไปถึงผู้ก่อเหตุและครอบครัว ให้กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ก่อไว้ด้วย
ด้าน อาจารย์ช้าง ธนปรรณ เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า อยู่ในวันที่เกิดเหตุ ตนเองก็เข้าไปห้ามปราม ซึ่งตนเองมองว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดกับช่างตัดผม เนื่องจากว่าวันที่เกิดเหตุ ก็มีการพูดคุยกับลูกค้าแล้วว่าจะตัดทรงไหนเอาแบบไหน จนกระทั่งพูดคุยกันเสร็จก็มีการลงมือตัด แต่ไม่คิดว่าการที่แม่เป็นคนสั่งให้ตัด แต่เกิดขัดใจลูกชาย จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทำให้ปัตตาเลี่ยนภายในร้านเสียหาย 2 ตัว มีดโกนหนวดหัก และข้าวของอื่นๆ เสียหาย มูลค่าประมาณ 10,000 บาท
ถือเป็นอุทาหรณ์ ทั้งคนที่ตัดและคนที่พามาตัด ให้ตกลงกันให้ได้ ไม่ใช่ไม่ถูกใจแล้วมาลงกับช่างตัดผม.