เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้โพสต์เคสคนไข้อายุ 60 ปีเศษ ที่มีแผลที่หัวเข่า และขึ้นเป็นตุ่มนูนที่หัวเข่าข้างขวาประมาณ 1 เดือน ซึ่งคนไข้เข้าใจว่าเกิดจากน้ำเหลืองเสีย สุดท้ายกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง
โดยคุณหมอ ระบุข้อความว่า ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปีเศษ ได้ให้ประวัติว่า คนไข้เป็นตุ่มนูนขนาด 0.5 เซนติเมตร ที่เข่าขวามาประมาณ 1 เดือน ต่อมาตุ่มแตกเป็นแผลมีเลือดไหล เสียดสีกับกางเกง และซื้อยาแก้อักเสบมากิน ทาเองก็ไม่หาย สุดท้ายมาพบแพทย์แผนกศัลยกรรม ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ แพทย์แนะนำให้ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ผลตรวจทางพยาธิวิทยา พบว่าเซลล์มะเร็ง ชนิด SCC การตัดชิ้นเนื้อครั้งแรก เป็นเพียงเพื่อดูว่าเป็นแผลจากอะไร แต่เมื่อเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัดผู้ป่วยอีกครั้ง ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อวางแผนผ่าตัดรอยโรคออกเป็นวงกว้างให้หมดทุกด้าน แต่ตำแหน่งเนื้องอกบริเวณข้อเข่าที่เป็นข้อพับ หากตัดแล้วเย็บแผลธรรมดา จะเป็นผลให้แผลแยกในภายหลัง จึงต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัดแบบพิเศษ
นอกจากนี้ คุณหมอระบุข้อความอีกว่า โดยต้องใช้เนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่ขาหนีบมาปิดแทน และเนื้อเยื่อส่วนที่ตัดออกไป หลังจากนั้นภายในสองสัปดาห์ ผิวหนังที่เป็นกราฟที่นำมาทดแทน ก็จะติดกลืนเป็นเนื้อเดียวกันเป็นตุ่มนูน อีกทั้งชนิดมีแผลหรือไม่มีแผล อาจมีการเปลี่ยนสี และเปลี่ยนขนาด
อย่างไรก็ตาม ถ้าตุ่มนูนโตเร็วผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ รีบไปปรึกษาแพทย์มะเร็งผิวหนัง หากปล่อยทิ้งไว้ ขนาดจะโตขึ้นได้ และการผ่าตัดก็ยากขึ้น และมะเร็งสามารถลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง และอวัยวะอื่นๆ ได้ มะเร็งผิวหนังที่บริเวณเข่า ซึ่งพบได้น้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ใบหน้า ศีรษะ และทุกส่วนของร่างกายเวลาอาบน้ำหมั่นตรวจร่างกายตนเองอยู่เสมอ
ขอบคุณข้อมูล : Arak Wongworachat