นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีสเอเชีย จำกัด กล่าวว่าฉางอาน ออโตโมบิล (CHANGAN Automobile) เข้าร่วมงาน Techsauce Global Summit 2024 ซึ่งเป็นการรวมตัวของบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคอาเซียน เพื่อพบปะและสร้างโอกาสทางธุรกิจขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภูมิภาค โดยในครั้งนี้ฉางอานได้นำสุดยอดเทคโนโลยี REEV มาร่วมโชว์ในงาน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตและนวัตกรรมระดับโลก

สุดยอดเทคโนโลยี Range-Extended Electric Vehicle หรือ REEV เป็นรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์เหมือนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และมีเครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟเพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ของยานยนต์เกินกว่าที่แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวจะสามารถทำได้โดยได้เปิดตัวแล้วในประเทศจีนพบว่าผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากการใช้เทคโนโลยี Super Range 2.0 ซึ่งเป็นระบบ REEV ขั้นสูงล่าสุด มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและระยะการขับขี่ที่ยาวนานกว่าเดิม

สำหรับเทคโนโลยี Super Range 2.0 มีการอัพเกรดเทคโนโลยีหลายประการ เช่น การฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูง การจุดระเบิดพลังงานสูง และ การหล่อเย็นและหล่อลื่นแบบแปรผัน นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี แบตเตอรี่ Golden Shield ที่รับประกันอายุการใช้งานยาวนาน ปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และการเติมพลังงานอย่างรวดเร็ว ใช้กลุ่มอัลกอริทึมอัจฉริยะในการวิเคราะห์ข้อมูล Vehicle Cloud AI สำหรับการตรวจสอบความปลอดภัยแบตเตอรี่แบบเชิงรุก ซึ่งมีความแม่นยำเกือบ 100%

เทคโนโลยี REEV ทำงานในหลายโหมด ทั้ง Electric Mode ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวและสามารถขับขี่ได้ในระยะไกล โดย Range-Extending Mode จะใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเมื่อระดับแบตเตอรี่ต่ำ ซึ่งจะสามารถจ่ายไฟให้กับมอเตอร์และชาร์จแบตเตอรี่ได้ ส่วน Regenerative Braking จะทำงานโดยการเปลี่ยนพลังงานจลน์เป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และ Camping Mode เมื่อยานพาหนะหยุดนิ่งและระดับแบตเตอรี่ต่ำ เครื่องยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟไปเก็บไว้

ดังนั้นเทคโนโลยี REEV จะเป็นทางเลือกของเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต ที่จะมอบประโยชน์ของการขับเคลื่อนไฟฟ้า พร้อมความสามารถในการเดินทางระยะไกลของยานยนต์แบบดั้งเดิม พร้อมทั้งลดการปล่อยมลพิษ และประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ายานยนต์ไฮบริดแบบดั้งเดิม เนื่องจากเครื่องยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ความสะดวกสำหรับการเดินทางระยะไกลโดยไม่ต้องหยุดชาร์จบ่อย ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการเดินทางในเมืองและการเดินทางไกล.