นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีต้องการปรับตัว แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนเข้าสู่ความเป็นสีเขียวอย่างเต็มที่ เป็นข้อจำกัดนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีทั้งระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างธุรกิจของไทย ยังพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลสูง และใช้เทคโนโลยีแบบเดิมที่ยังไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร ขณะที่เครื่องมือสนับสนุนหรือแรงจูงใจให้แต่ละภาคส่วนปรับตัวยังมีไม่มาก


ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ หากพูดถึงเรื่องงานสิ่งแวดล้อมจะเน้นการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon neutrality หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero โดยจะมีกรีนไฟแนนซ์มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว แม้ตลาด Green และ Sustainability bond ของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด และธุรกิจขนาดใหญ่เริ่มปรับตัวได้ค่อนข้างดี ได้เห็นบริษัทไทยขนาดใหญ่เข้าเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เข้าถึง 26 บริษัท สูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่เอสเอ็มอียังตระหนักเรื่องดังกล่าวน้อย


“ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังค่อนข้าง brown หรือโลกแบบเก่าค่อนข้างเยอะ โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญทั้งภาคการผลิตและการส่งออก ยังเป็น brown หรือโลกแบบเก่าค่อนข้างเยอะ ธุรกิจหลายตัวเน้นเรื่อง Green ยังน้อย โดยธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือ เอสเอ็มอี ยังมีความตระหนักถึงความจำเป็นและความพร้อมในการเรื่องการปรับตัวสู่ระบบสีเขียวน้อยกว่าธุรกิจขนาดใหญ่อยู่มาก”

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่าสิ่งสำคัญ คือ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยจาก brown สู่ less brown และสิ่งสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงจังหวะเวลาและความเหมาะสมกับบริบทของประเทศ ซึ่งต้องการสร้างสมดุลระหว่างการเดินหน้าสู่ความยั่งยืน และการป้องกันผลข้างเคียงเชิงลบที่จะเกิดกับภาคธุรกิจต่างๆ และการขับเคลื่อนเรื่องนี้อาจจะต้องเริ่มจากก้าวเล็กๆ ที่จับต้องได้ ที่ปฏิบัติได้ และที่สำคัญคือ หวังว่าจะสามารถขยายผลในวงกว้างได้



“หลายเดือนที่ผ่านมา ธปท. และธนาคารพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมกันใกล้ชิดในการผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ตอบโจทย์กับภาคธุรกิจและมีเงื่อนไขที่เอื้อต่อการปรับตัวของธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาคเศรษฐกิจสำคัญ หวังว่าโครงการนี้ จะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีเริ่มปรับตัวอย่างจริงจัง”