การแข่งขันชกมวยสากล โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 7 ส.ค. 67 ตามเวลาประเทศไทย ที่สังเวียนตำนานของวงการเทนนิส “โรลังด์ การ์รอส” รอบรองชนะเลิศ รุ่น 66 กก.หญิง “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจาก จ.หนองคาย ต้านความแกร่งของ อิมาเน เคลิฟ มวยคนดังชาวแอลจีเรีย ไม่ไหว แพ้ 0-5 เสียง ทำให้ จันทร์แจ่ม ได้เหรียญทองแดง
ด้าน นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ จันทร์แจ่ม จะพ่ายแพ้ แต่ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว ทั้งนี้นักมวยไทยยังเป็นรองเรื่องสรีระและความแข็งแกร่ง ตลอดจนสภาพเสียงเชียร์ภายในสนามที่มีชาวแอลจีเรีย อยู่ที่ฝรั่งเศสกันเยอะมาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจันทร์แจ่ม อายุยังไม่มาก เพียง 23 ปี มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะสามารถยกระดับประสบการณ์สู่การคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์อีก 4 ปีข้างหน้าได้
“เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักชกไทยตนก็ยังยืนยันว่าจะมอบเงินสดให้ 1 ล้านบาท ทันทีที่กลับถึงเมืองไทยแม้จะพ่ายแพ้ก็ตาม” นายสุชัย กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชมวยหญิงกล่าวว่า ยกแรกพลาดโดนหมัดปลายยกทำให้คะแนนแพ้ 0-5 จึงไม่มีทางเลือกในยกที่ 2 จะต้องเดินลุยจึงเข้าทางนักชกแอลจีเรีย ทั้งนี้มองด้วยสายตาแล้วการออกหมัดไม่ได้เป็นรองมากเลย ส่วนอนาคตของทีมมวยหญิงเชื่อว่ายังมีอนาคตที่สดใสต่อเนื่องถึงโอลิมปิกเกมส์ครั้งหน้า อาจจะมีเพียง “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ เท่านั้นที่ตอนนี้อายุเกิน 30 แล้ว หลังจากกลับประเทศไทยต้องรอการพิจารณาแผนจากสมาคมกีฬามวยสากล
จันทร์แจ่ม วัย 23 ปี ดีกรีรองแชมป์เอเชียนเกมส์ ที่หางโจว และรองแชมป์โลก 2023 ได้รางวัลตามหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำหนดไว้ เหรียญทองแดง 4,800,000 บาท สำหรับแบ่งจ่าย โดยจ่ายเป็นก้อน 50% และที่เหลืออีก 50% จ่ายรายเดือน ในเวลา 4 ปี หรือ 4,000,000 บาท จ่ายครั้งเดียว นักกีฬาสามารถเลือกได้
เธอบอกว่า จะเลือกรับแบบแบ่งจ่าย 4.8 ล้านบาท ที่จ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง จะรับจาก กองทุนฯ เป็นเงินเดือน 4 ปี ส่วนเงินก้อนครึ่งหนึ่ง ยังไม่วางแผนว่าเอาไปใช้อะไร ปรึกษาพ่อแม่ก่อน.