จากกรณี คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง จากเหตุมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ตามที่ข่าวเสนอไปนั้น

ด่วน ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล ใช้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ล้มล้างการปกครองฯ ตัดสิทธิ คณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “Rangsiman Rome – รังสิมันต์โรม” สส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ประกาศลั่นชัด ไม่ว่าพรรคไหนเราจะชื่ออะไร ปี 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล

โดย Rangsiman Rome ระบุข้อความว่า ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อนาคตใหม่จนมาถึงก้าวไกล เราผลักดันวาระก้าวหน้าต่อประชาชนต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลักดันการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร สมรสเท่าเทียม การแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงการมีนโยบาย เพื่อส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนผ่านนโยบายต่างๆ ของพรรค แต่เรากลับเผชิญด้วยข้อหาที่รุนแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลาย จนกระทั่งในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย “ยุบพรรคก้าวไกล” ในระบอบประชาธิปไตยพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีชุดคุณค่า อุดมการณ์ และถือความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนั้นมาผ่านการสร้างนโยบาย และดำเนินนโยบายตามที่ประชาชนต้องการ เรายืนยันว่าการทำลายพรรคการเมืองแบบเดียว ที่ยอมรับได้คือคำพิพากษาจากประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น กระบวนการนิติสงครามด้วยการยุบพรรค จึงเป็นการตัดรอนความเชื่อมั่นของประชาชนจากระบอบประชาธิปไตย และไม่ใช่วิธีสร้างความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาธิปไตยตั้งมั่นในประเทศไทยได้เลย

นอกจากนี้ Rangsiman Rome ยังระบุข้อความอีกว่า ถ้าหากเรายืนยันและทำเสมือนว่าการไล่ยุบพรรค ด้วยกระบวนการที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ ก็จะทำให้วิธีการนี้ถูกใช้ในการทำลายความฝันของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั้นหมายความว่าถ้ามีกลุ่มคนที่ที่มีความฝันและคิดอ่านคล้ายๆ กัน รวมตัวกันตั้งพรรคการเมือง เเละเสนอนโยบายต่อประชาชน แต่ถ้าหากคิดต่างจากรัฐหรือชนชั้นนำ ก็จะถูกทำลายลงอย่างไม่ไยดีใช่หรือไม่ เราต้องช่วยกันยืนยันว่านโยบายของพรรคก้าวไกล คือสิ่งทีสังคมนี้ต้องการ ต้องช่วยกันยืนยันว่าสิ่งที่ก้าวไกลทำมาโดยตลอด เพื่อแก้ปัญหาคือสิ่งที่คนไทยต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดโปงระบบตั๋ว ส่วย การละเมิดสิทธิมนุษยชน การทุจริต รวมถึงนโยบายที่ก้าวหน้าจำนวนมาก คือสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ และยืนยันว่าเราในฐานะประชาชนจะเป็นคนที่ช่วยกันพัดโหมสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง และทำให้พรรคก้าวไกลไม่เป็นเพียงพรรคการเมือง แต่จะทำให้พรรคก้าวไกลคือผู้คนและการเดินทางของเราทุกคนเสมอ ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร ปี 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน

ขอบคุณข้อมูล : “Rangsiman Rome – รังสิมันต์โรม