เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.30 น.ได้รับแจ้งจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ว่า ได้มีไกด์บริษัททัวร์นำเที่ยว 2 คน นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 22 คน ไปเดินท่องเที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา ฝั่ง ต.คลองศก อ.พนม และเกิดเหตุไกด์ 1 คนเป็นผู้ชายได้ถูกน้ำพัดพาสูญหายไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่อุทยานเขาสก ทราบเหตุได้เข้าช่วยเหลือพานักท่องเที่ยวทั้งหมดและไกด์อีก 1 คนไปพักค้างแรมที่แพไกรสร ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกที่ 7 โดยเจ้าหน้าที่อุทยานและกู้ชีพกู้ภัยบ้านเชี่ยวหลาน กำลังออกค้นหาไกด์ที่สูญหาย ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวมีอาการข้อเท้าแพลงและมีแผลถลอกที่หัวเข่า 1 คนขณะนี้เจ้าหน้าที่อุทยานกำลังนำลงเรือไปทำการรักษาพยาบาล ส่วนที่เหลือปลอดภัยเจ้าหน้าที่พาเข้านอนที่แพของอุทยานแล้ว
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักบริเวณเทือกเขาสก ซึ่งระหว่างที่ไกด์ทั้ง 2 คนพานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวที่ถ้ำน้ำทะลุ ระหว่างจะพานักท่องเที่ยวออกจากถ้ำไ ด้มีน้ำป่าที่สะสมบนภูเขาไหลบ่าแรงลงมาพัดกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดพากันหนีน้ำออกมาได้ และมีไกด์ถูกน้ำพัดสูญหายไป 1 คน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน อุทยานแห่งชาติเขาสก ได้ประกาศปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมถ้ำน้ำทะลุ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน มีความอันตรายจากกระแสน้ำป่าที่ไหลผ่านตัวถ้ำ โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าพัดท่วมเข้าถ้ำมีนักท่องเที่ยวชายต่างชาติและคนไทยเสียชีวิต 8 ราย สำหรับถ้ำน้ำทะลุ มีปากถ้ำกว้างใหญ่ถึง 30 เมตร ภายในกว้างขวางมีลำธารไหลผ่านตลอดความยาว 600 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รวมทั้งโขดหินที่เกิดจากการกัดเซาะน้ำมีรูปทรงแปลกตา เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ(แอดเวนเจอร์) โดยถ้ำน้ำทะลุ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขส. 4 (คลองแปะ) ประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา อีกด้านหนึ่งอยู่เขต อบต.คลองศก อ.พนม ห่างจากท่าเรือท่องเที่ยวเทศบาลตำบลเชี่ยวหลาน ประมาณ 23 กิโลเมตร ต้องนั่งเรือจากท่าเรือไปประมาณ 2 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยบริเวณดังกล่าวไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ใดๆติดต่อได้