ในเดือนมิถุนายน 2565 ระหว่างที่ ฌอน เอแวนส์ วัย 55 ปี จากเมืองวูล์ฟแฮมตัน ประเทศอังกฤษ กำลังพักฟื้นหลังจากป่วยด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน  เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะเพศของเขา กล่าวคือมีรอยช้ำที่ดูน่ากลัวมาก

ในตอนแรก เอแวนส์ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นตามมากลับทำให้เขาต้องคิดหนัก เขาสังเกตว่ามีเลือดออกจากอวัยวะเพศระหว่างอาบน้ำ และมีตุ่มขึ้นที่บริเวณฐานองคชาต

เอแวนส์เล่าถึงอาการผิดปกติให้แพทย์ฟังเพื่อขอคำปรึกษา จากนั้นเขาก็ถูกส่งตัวไปยังแพทย์เฉพาะทางและจะต้องมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจ

แต่เนื่องจากเอแวนส์กำลังอยู่ระหว่างรับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เขาจึงต้องรอไปอีกหลายเดือนกว่าจะได้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ระหว่างนั้น อาการของเขาก็แย่ลงเรื่อย ๆ

คนไข้หนุ่มใหญ่เล่าในภายหลังว่าเขาเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวและปวดมากที่บริเวณอวัยวะสำคัญเหมือนกับไปโดนกระแทกมาจนช้ำมาก พอถึงเดือนกรกฎาคม ระหว่างที่เขากำลังอาบน้ำ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีเลือดปะปนออกมากับน้ำที่ไหลผ่านตัวเขา ปรากฏว่ามีเลือดออกที่อวัยวะเพศของเขา ซึ่งทำให้เขาตื่นตระหนกมาก

ฌอน เอแวนส์จำต้องรับการผ่าตัดเอาอวัยวะเพศทิ้งไป เนื่องจากพบเชื้อมะเร็ง

เอแวนส์ยังบอกด้วยว่าตอนนั้นเขารู้สึกเจ็บมากจนเดินไม่ได้ ทำให้เขาต้องโทรฯแจ้งเหตุฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือให้พาเขาไปส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้นไม่นาน ทีมแพทย์ก็เข้ามาประเมินอาการและบอกว่า อวัยวะเพศส่วนที่บวมขึ้นมานั้นมีลักษณะเป็นก้อนขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งองคชาต ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดหายาก ส่วนใหญ่จะพบในคนไข้ชายอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป

แม้ว่าคนไข้โรคนี้บางรายจะรักษาได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการว่าอยู่ในระดับไหน แต่ในกรณีของเอแวนส์นั้น แพทย์ที่รักษาเขาชี้ว่าจำเป็นจะต้องผ่าตัดเอาองคชาตของเขาออกไปทั้งหมด ซึ่งทำให้เขารู้สึกแย่มาก

ในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 เอแวนส์ก็เข้ารับการผ่าตัดที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลซึ่งกินเวลาถึง 5 ชั่วโมงที่โรงพยาบาลฮาร์ตแลนด์ส ในเมืองเบอร์มิงแฮม

ถึงแม้ว่าจะโล่งใจมากที่ในที่สุดก็รักษาโรคร้ายได้ แต่เอแวนส์ก็เล่าว่าช่วงเวลาหลังจากผ่าตัดนั้นเป็นช่วงที่เขารู้สึกโดดเดี่ยวที่สุดในชีวิต เขารู้สึกชาไปหมด และการตัดองคชาตทิ้งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นชายในตัวเขา เอแวนส์รู้สึกเหมือนเขาเป็นตัวประหลาดและคงไม่มีใครต้องการเขาอีกแล้ว

ภายหลังเขาก็เริ่มปลอบตัวเองได้ว่านี่คือเขาคนใหม่และคนอื่น ๆ ก็จะยอมรับตัวเขาได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เอแวนส์ก็ยังคงมีความหวัง เขามีแนวโน้มว่าสามารถรับการผ่าตัดเสริมองคชาตเข้าไปใหม่ได้ในอนาคต แต่จะต้องรอดูก่อนว่าภายใน 5 ปีหลังจากผ่าตัดเจ้าโลกทิ้งไปนั้น ร่างกายของเขาปลอดจากมะเร็งร้ายอย่างสมบูรณ์แล้วหรือยัง

เอแวนส์ตัดสินเผยประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่ไม่มีองคชาต โดยหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ที่ประสบภาวะเดียวกัน และช่วยกระตุ้นเตือนให้คนทั่วไปรับรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งองคชาต

เอแวนส์เล่าว่าเขาต้องปรับตัวหลายอย่างในการใช้ชีวิต เช่น ต้องนั่งปัสสาวะเหมือนผู้หญิงเพราะศัลยแพทย์จัดตำแหน่งท่อปัสสาวะให้เขาใหม่ นอกจากนี้เขายังต้องไปตรวจหาเชื้อมะเร็งทุก 3 เดือนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีมะเร็งอยู่ในตัวเขาอีกแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเขาไม่ต้องรู้สึกเจ็บหรือปวดอีกต่อไป

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยโรคมะเร็งของอังกฤษระบุว่า โรคมะเร็งองคชาตเป็นมะเร็งชนิดหายาก มีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 760 คนต่อปี แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 คนต่อปี ภายในปี 2581-2583

อาการเบื้องต้นของโรคมะเร็งองคชาตได้แก่ มีก้อนบวมและรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศซึ่งรักษาไม่หายภายในเวลา 1 เดือน, มีผื่นขึ้น, มีเลือดออก, มีกลิ่นผิดปกติ, สีองคชาตเปลี่ยนไป, รูดหนังหุ้มปลายองคชาตไม่ได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงอาการเหนื่อยง่าย, มีก้อนบวมที่ขาหนีบ, ปวดท้องและน้ำหนักตัวลดอย่างผิดปกติ

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES