เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. …. วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มี สว. ลุกขึ้นอภิปรายทั้งสนับสนุนและท้วงติง
โดยเมื่อเวลา 12.40 น. ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งของการอภิปรายของนางแดง กองมา สว.กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกลุ่ม 9 ลุกขึ้นอภิปรายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนมาจาก จ.อำนาจเจริญ เป็นแม่ค้าขายหมู ชีวิตพบแต่กับพ่อค้าแม่ค้าชาวชนบท ซึ่งตนถูกเรียกว่าเป็นกลุ่มคนรากหญ้า ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่รากหญ้า แต่เป็นรากไม้รากหนึ่งที่ค้ำให้ต้นไม้ ที่ชื่อว่าประเทศไทยให้สง่างาม กรณีที่รัฐบาลแจกเงินให้ประชาชน คนละหมื่นบาท พวกตนยินดีและดีใจเป็นอย่างมากเพื่อใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น แต่พอเป็นเงินดิจิทัล กลุ่มของตนกังวลว่าจะใช้จ่ายอย่างไร และคิดหนัก บางครอบครัวมีสมาชิก 4-5 คน รวมเป็นเงิน 40,000-50,000 บาท อยากเอาไปซ่อมบ้าน หรือซื้อวัว ซื้อควายเลี้ยง แต่ทำไม่ได้
“ทำไมรัฐบาลไม่แจกเป็นเงินแบบนี้เพื่อใช้ได้ง่ายสำหรับพวกเรา ดิฉันเห็นด้วยกับการแจกเงินให้คนไทย แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัล ไหนๆ รัฐบาลจะแจกเงินให้คนไทยแล้ว ทำไมไม่ทำให้ประชาชนมีความสุข เหมือนกับเพิ่มทุกข์ให้ประชาชน” นางแดง กล่าว
ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งของการอภิปราย นางแดง ได้ชูธนบัตร ใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ในมือขวา และ 100 บาท จำนวน 2 ใบ ในมือซ้าย รวมเป็นเงิน 1,200 บาท ประกอบการอภิปรายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นางแดงอภิปราย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่ขณะนั้นนั่งอยู่บนบังลังก์ แต่ยังไม่ได้สลับมาทำหน้าที่ประธานการประชุม ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หยิบกระดาษขึ้นมาซับน้ำตาตลอดเวลา พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปที่นางแดงอภิปรายด้วย