เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางขณะนี้ ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับกระทรวงแรงงาน หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางมาราชการที่ประเทศไทย คงจะเข้าร่วมประชุมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ การประชุมในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) จะหารือถึงการเตรียมรับมือกับกรณีที่อาจเกิดความรุนแรงรอบใหม่ในตะวันออกกลาง รวมถึงเตรียมซักซ้อมแผนอพยพคนไทยในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้ และจะมีการสรุปผลหารือดังกล่าวรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอลนั้น ขณะนี้ได้เดินทางกลับไปทำงานในประเทศดังกล่าวแล้ว 30,000 กว่าคน ส่วนในเลบานอน แม้ไม่มีแรงงานไทยเข้าไปทำงาน แต่ยังมีคนไทยที่อาศัยอยู่ เราจึงต้องมีการติดตามสถานการณ์และดูแลคนไทยอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
นายรัศม์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ความรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลางที่อาจเกิดขึ้นรอบใหม่นั้น มีความแตกต่างจากครั้งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ที่สร้างความตกใจและช็อกอย่างมาก ทำให้แรงงานไทยในพื้นที่ดังกล่าวเสียขวัญ และแสดงความสมัครใจขอเดินทางกลับประเทศไทย แต่สำหรับเหตุการณ์ในขณะนี้ เราคิดว่าทุกคนทราบถึงสถานการณ์ดีอยู่แล้ว และน่าจะเตรียมพร้อมกันไว้พอสมควร ถ้าสถานการณ์ไม่รุนแรงมากจนถึงขั้นที่ชาวอิสราเอลก็รับมือไม่ไหว ตนคิดว่าจำนวนแรงงานไทยในอิสราเอลที่ต้องการกลับประเทศไทยอาจมีไม่มากเท่าครั้งที่ผ่านมา เพราะอิสราเอลมีสถานการณ์สู้รบเป็นระยะๆ มาตลอด และส่วนใหญ่ไม่มีแรงงานไทยที่ขอเดินทางกลับไทย จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566