นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมภาคใต้ และอุปนายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยถึงภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567 ว่า ขณะนี้เป็นช่วงโลซีซั่นหรือหน้าฝน (กรีนซีซั่น) ทำให้การท่องเที่ยวชะลอตัวลงไปบ้าง แต่หากเปรียบเทียบอัตราการฟื้นตัวช่วงเดียวกันของปี 2566 ถือเป็นการฟื้นตัวถึง 140% แต่บางตลาด อาทิ จีน ฟื้นตัว 55% ถือว่าฟื้นตัวต่ำสุดในตลาดต่างชาติ เกาหลีใต้ 63% ส่วนตลาดอื่นๆ ฟื้นตัวดีกว่า 100% หมดแล้ว โดยเฉพาะรัสเซีย อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร (ยูเค) มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนี สหรัฐ เกาหลีใต้ อัตราการฟื้นตัวกว่า 100% เทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว

ทั้งนี้ จากปริมาณฝนที่ตกมากในช่วงนี้มาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ทั้งการสัญจรและการท่องเที่ยว ใช้เวลาเดินทางมากกว่าเดิม เพราะรถติดกว่าช่วงปกติ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมหนักจนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภาคใต้ โดยอัตราการเข้าพักในไตรมาส 3 อยู่ในระดับ 60% ถือว่าใกล้เคียงกับ ไตรมาส 2 แต่ดีกว่าปี 2566 เพราะบวกขึ้นมาประมาณ 5-10% โดยเดือนกรกฎาคม มีตลาดตะวันออกกลางที่เข้ามาเพิ่มคือ ซาอุดีอาระเบีย ซูเออี โอมาน อิสราเอล กาตาร์ เนื่องจากชอบมาเที่ยวในถูฝนของไทย เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้ร้อนมาก ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 นี้ เข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นแล้ว ดังนั้นในเดือนพฤษจิกายน และธันวาคม คาดว่าอัตราการเข้าพัก จะดีขึ้นมาอยู่ที่ 70%-80%

นายศึกษิต กล่าวว่า ตลาดที่เข้ามามีความหลากหลายของสายการบิน ปัจจุบันมีสายการบินต่างประเทศ 50 สายการบิน มีเที่ยวบินเข้าออก 4,720 เที่ยวบินต่อเดือน จำนวนสายการบินภายในประเทศ 6 สายการบิน จำนวนเที่ยวบินเข้าออก 4,016 เที่ยวบินต่อเดือน รวมกว่า 60 เมืองทั่วโลก คิดเป็นเที่ยวบินต่อวันประมาณ 280 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารรวม 45,000 คนต่อวัน เทียบกับช่วงไฮซีซั่น ที่จะอยู่ประมาณ 50,000 คนต่อวัน ข้อจำกัดหลักๆ ของการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร คือมีแค่ 1 ทางวิ่งเครื่องบิน และหลุมจอด 34 หลุมเท่านั้น ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมปี 67 อยู่ประมาณ 45,880 คน ฟื้นตัวขึ้นจากปี 62 ที่รวมอยู่ 42,835 คน คิดเป็นการฟื้นตัวที่ 107.11%