สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ว่า ข้อตกลงกับโมฮัมเหม็ด และผู้ต้องหาอีก 2 คน ซึ่งประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้คดีที่ดำเนินมาอย่างยาวนานใกล้จะคลี่คลาย แต่มันก็สร้างความโกรธเคืองให้กับญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 รวมถึงเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองชั้นนำของพรรครีพับลิกัน

“เมื่อคำนึงถึงความสำคัญของการตัดสินใจ ในการทำข้อตกลงก่อนการพิจารณาคดีกับผู้ต้องหา ความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจดังกล่าว ควรอยู่กับผม” พล.อ.ออสติน ระบุในบันทึกที่ส่งถึง พล.จ.ซูซาน เอสกาลเลียร์ ผู้กำกับดูแลคดีนี้ พร้อมกับข้อความยกเลิกข้อตกลง 3 ฉบับ ที่ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2567

ทั้งนี้ คดีของผู้ต้องหาก่อเหตุวินาศกรรม 9/11 เกิดการติดขัดในขั้นตอนการดำเนินการก่อนการไต่สวน เป็นเวลานานหลายปี และจำเลยยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทหารบนอ่าวกวนตานาโม ในคิวบา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” รายงานว่า โมฮัมเหม็ด, นายวาลิด บิน อัตตาช และนายมุสตาฟา อัล-เฮาซาวี ตกลงที่จะรับสารภาพในข้อหาสมคบคิด เพื่อแลกกับการรับโทษจำคุกตลอดชีวิต แทนการพิจารณาคดีที่อาจทำให้พวกเขาได้รับโทษประหารชีวิต

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงข้างต้นทำให้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่าข้อตกลงฉบับนี้ “ไม่มีสามัญสำนึก”

ขณะที่นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวเสริมว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็น “การตบหน้า” ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คน ในเหตุวินาศกรรม 9/11.

เครดิตภาพ : AFP