เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. นำกำลังเข้าตรวจสอบห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ หลังได้เบาะแสว่า น.ส.เจติยา อายุ 39 ปี มีพฤติกรรมแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ในกลุ่มเพื่อนทางเฟซบุ๊ก รับให้บริการฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ เสริมความงาม โดยนัดหมายกลุ่มลูกค้าไปฉีดที่โรงแรมดังกล่าว พบ น.ส.เจติยา กำลังเตรียมอุปกรณ์เพื่อให้บริการลูกค้าที่มานั่งรออยู่จำนวนหลายราย จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจยึดขวดสารฟิลเลอร์และเข็มฉีดยาบรรจุสารฟิลเลอร์พร้อมฉีด 5 รายการไว้เป็นของกลาง
สอบสวน น.ส.เจติยา ให้การรับสารภาพว่า จบการศึกษาระดับชั้น ปวช.3 สาขาการขาย ไม่มีความรู้ความชำนาญด้านแพทย์และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่อย่างใด ส่วนวิธีการฉีดสารเข้าร่างกายเพื่อเสริมความงามให้ลูกค้าศึกษาต่อมาจากภรรยาของหมอจีนที่พักอาศัยภายในประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดี จึงเริ่มรับงานฉีดให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยทุกครั้งจะนัดหมายลูกค้าผ่านเฟซบุ๊กครั้งละหลายราย และเปิดโรงแรมรายวัน เปลี่ยนจุดนัดหมายไปเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ ทำมานานกว่า 5 ปี มีรายได้เดือนละ 20,000-40,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป